การล้างพิษถ้าจะให้ได้ผลดี ควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดสูตร น้ำผัก-ผลไม้มีประโยชน์ ในการล้างสารพิษและทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง เพียงแต่ปฏิบัติอย่างจริงจัง ก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพความงามที่แท้จริงนั้นคือความงามตามธรรมชาติ แต่ธรรมชาติก็ไม่ได้มอบผิวเรียบงามมาให้กับผู้หญิงทุกคน ดังนั้นเครื่องสำอางจึงเป็นเครื่องประทินโฉมชิ้นสำคัญของผู้หญิง

10.11.51

น้ำอัญชัน

น้ำสมุนไพร ที่สาวๆรักสุขภาพชอบดื่ม
ยุคนี้จะมัวปล่อยปละละเลยเรื่องอาหารการกินไม่ได้แล้ว
เพราะลำพังแค่ฝุ่นควันพิษและมลภาวะที่ต้องเผชิญ
ในแต่ละวันก็ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงเต็มทีแล้ว เลยนำ
น้ำสมุนไพรยอดฮิตมาฝากกัน เผื่อสุขภาพที่ดี
น้ำอัญชัน
เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่มาแรงสุดๆ ในยุคนี้ก็ว่าได้ เพราะนอกจาก
จะมีสีสันสดใสเก๋ไก๋ประหนึ่งสีสังเคราะห์ รวมทั้งมีรสชาติที่อร่อย
ดื่มแล้วชื่นใจ “น้ำอัญชัน” ยังมีประโยชน์มากมาย อาทิ
มีสารแอนโธไซยานิน ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริม
ภูมิต้านทานให้ร่างกาย และช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็น
ถ้าอยากได้คุณค่าทางอาหารแบบเต็มสตรีม แนะนำให้ดื่ม
“น้ำอัญชัน” ทันทีที่ปรุงเสร็จ (ในกรณีทานร้อน)

29.10.51

มะม่วง (Mango)

มะม่วง (Mango) ช่วยแก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง ช่วยขับเสมหะ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันบำรุงผิวพรรณ ช่วยย่อยอาหาร ในระหว่าง ล้างพิษ ควรกินมะม่วงดิบ เพราะมะม่วงสุกจะมีน้ำตาลสูงมะม่วงอุดมไปด้วยวิตามินซี 3 แมกนีเซียม โพแทสเซียม ทองแดง และเบตาแคโรทีน เมื่อต้องนำไปใช้ให้ปอกเปลือกออกให้หมด คว้านเอาเมล็ดออก เอาแต่ส่วนที่เป็นเนื้อไปสกัดเท่านั้น

20.10.51

แอปเปิล ( Appl )

แอปเปิล ( Appl ) อุดมไปด้วยไปด้วยโพแทสเซี่ยม กำมะถัน เหล็ก แมกนีเซี่ยม วิตามินบี1 บี2 และบี6ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยลดความตึงเครียด ช่วยชะล้างสารพิษที่สะสมอยู่ในตับและไตทำให้ตับและไตสะอาด มีสารต้านอนุมูลอิสระ ( Antioxidant ) เช่น เบต้าแคโรทีน และไฟโตเคมิคอลเควอเซติน ( Phytochemical Quercetin ) แอปเปิลยังมีกรดมาลิก ( Malic Acid )กรดแทนนิก( Tannic Acid ) และเส้นใยเพ็กติน ( Pectin ) ซึ่งช่วยชะล้างกระเพาะอาหารและลำใส้ช่วยย่อยอาหาร ช่วยทำความสะอาดลำไส้เล็ก สามารถกินได้ทั้งแบบน้ำสกัดและกินทั้งผล แกนของแอปเปิลมีเพ็กตินซึ่งเป็นเส้นใยที่ทำหน้าที่ในการชะล้างลำใส้เล็กอย่างมีประสิทธิภาพน้ำสกัดจากแอปเปิลมีสรรพคุณในการช่วยลดไข้ และบรรเทาอาการอักเสบของเนื้อเยื่อซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างล้างพิษ

17.10.51

สูตร ล้างสารพิษทำความสะอาดลำใส้

สูตร ล้างสารพิษทำความสะอาดลำใส้
ส่วนผสมแตงโมเหลือง 2 ถ้วย
แตงกวา 1 ถ้วย
อะโวเคาโด 1ถ้วย
แอพริคอต อบแห้ง 1 ถ้วย
จมูกข้าวสาลี 1/4 ถ้วย
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย
รายระเอียด แตงโมเหลืองมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าโดยไมาเอาเมล็ดออกแตงกวาหั่นเป็นแว่นบางๆไม่ต้องปอกเปลือก นำแตงโมและแตงกวาไปสกัดรวมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผัก-ผลไม้นำอะโวคาโดมาคว้านเอาแต่เนื้อ ปั่นเนื้ออะโวเคโดรวมกับแอพริคอตอบแห้งและจมูกข้าวสาลีด้วยเครื่องปั่นเติมน้ำผักที่สกัดเตรียมไว้และน้ำแข็งป่นลงไป ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เขัากันอีกครั้ง โรยหน้าด้วยจมูกข้าวสาลีเล็กน้อย เสิร์ฟได้ทันที

14.10.51

องุ่น(Grape)

องุ่น(Grape) ช่วยเพิ่มความเร็วให้แก่กระบวนการเผาพลาญอาหาร ช่วยล้างพิษ มักปรากฏอยู่ในโปรแกรมล้างพิษแทบทุกโปรแกรม ช่วยควบคุมน้ำหนัก ดีต่อเลือดลม ช่วยขับปัสสาวะ อุดมไปด้วยฟอสฟอรัสกำมะถัน แคลเซียม เหล็ก วิตามินบี1 และบี2 วิตามินซี กรดไฟโตเคมิคอลเอลลาจิก และกรดทาณืทาริก ( Tartaric Acid) เมื่อจะนำไปใช้ให้ล้างน้ำให้สะอาด ผ่า ครึ่งโดยไม้ต้องแคะเมล็ดออกนำไปสกัดได้ทันที

12.10.51

สับปะรด (Pineapple)

สับปะรด (Pineapple) มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยย่อยโปรตีนได้ดี มีโบรเมลิน (Bromelin) ซึ่งเป็นเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่ช่วยรักษาค่าพีเอชของร่างกายให้อยุ่ในระดับสมดุล อุดมด้วยวิตามินซี กรดโฟลิกโพแทสเซียม โซเดียม และ แมกนีเซียม การแพทย์จีนแผนโบราณเชื่อว่าสีเหลืองของสับปะรดสัมพันธ์กับธาตุดินซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร เมื่อต้องนำไปใช้ให้ปอกเปลือดหนาๆ ข้างนอกออกให้หมด หั่นส่วนที่เป็นเนื้อและแกนพอหยาบ นำไปสกัดได้เลยทันที

10.10.51

สาหร่ายสไปรูลินา ( Spirulina )

สาหร่ายสไปรูลินา ( Spirulina )สาหร่ายสไปรูลินาเป็นพืชเซลล์เดียวที่เติบโตบนผิวของแหล่งน้ำที่สะอาดซึ่งอยู่ตามเทือกเขาและป่าลึกสาหร่ายสไปรูลินา 100แคปซูล จะให้โปรตีนบริสุทธิ์ 58 กรัม คลอโรฟีลล์อีก 2.1 กรัม สาหร่ายสไปรูลินาอุดมไปด้วยวิตามินบีที่จำเป็นต่อการล้างพิษ การฟื้นฟูและการปรับสมดุลของตับ สมอง และระบบประสาทและเป็นแหล่งวิตามินบี 12 ซึ่งเป็นวิตามินที่หาไม่ได้ในพืชผักหรืออาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ เนื่องจากแหล่งของวิตามินบีคือธัญพืชและเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดกรดขึ้น ภายในร่างกายที่เราจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงในช่วงล้างพิษ เพื่อให้ได้วิตามินดังกล่าว สาหร่ายสไปรูลินาจึงเป็นทางเลือกที่ดี
ดร.เบอร์นาร์ด เจนเซ็น ( Dr.bernard Jensen )หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดร่างกายด้วยการล้างพิษกล่าวว่า คลอโรฟิลล์มีคุณสมบัติในการเร่งกระบวนการล้างสารพิษและของเสียใน ตับกระแสเลือด และลำใส้ให้เร็วขึ้น และเนื่องจากการทำความสะอาดลำไส้ ตับ และกระแสเลือดถือเป็นร้อยละ 75 ของกระบวนการล้างพิษในร่างกายทั้งหมด ดังนั้นคลอโรฟิลล์จึงมีบทบาทสำคัญในการทำให้กระบวนการล้างพิษในร่างกายดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

8.10.51

กระเทียม(Garlic)

กระเทียม(Garlic) เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งที่ดีเยี่ยม จากการทดลองพบว่ากระเทียมมีฤทธิ์ในการด้านการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งและต่อสู้กับเชื้อโรค ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีภูมืคุ้มกันต่ำเนื่องจากการติดเชื้อ การทำเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด รวมไปจนถึงผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ น้ำมันกระเทียมช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาวในการต่อสู้มะเร็ง ช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งบริเวณจมูก คอ ตับ และปากมดลูก ทำลายองค์ประกอบของเซลล์มะเร็งส่งผลให้เซลล์มะเร็งตายในที่สุด นอกจากนี้กระเทียมยังมีคุณสมบัติในการยับยั้งการสังเคราะห์สารไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ช่วยป้องกันและรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งผิวหนัง และโรคเนื้องอกชนิดร้ายแรงได้หลายชนิด ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการถูกคุกคามของเปอร์ออกไซด์ในการทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ จากการศึกษาส่วนประกอบพบว่ากระเทียมมีสารที่ด้านการแข็งตัวของเลือด ทำให้เกล็ดเลือดลื่น ไม่จับตัวกันเป็นก้อน นอกจากนั้นกระเทียมยังมีธาตูซีลีเนียมที่มีคุณสมบัติในการเป็นตัวต้านปฏิกิริยาออกซิเดชัน ป้องกันมิให้ออกซิเจนหลุดออกจากเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยขจัดของเสียออกจากเลือด ทำให้เลือดบริสุทธิ์ ช่วยกระตุ้นกานไหลเวียนของเลือดให้สะดวก ยังส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ไม่หมองคล้ำง่าย เมื่อนำกระเทียมมาสกัดให้ลอกเปลือกนอกออกให้หมดเสียก่อน นำเอาแต่ส่วนเนื้อไปสกัด

30.9.51

ลูกแพร์ (Pear)

ลูกแพร์ (Pear) ลูกแพร์เป็นหนึ่งในอาหารไม่กี่อย่างที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ลูกแพร์มีสรรพคุรเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยทำความสะอาดไต มีวิตามินวี กรดโฟลิก ไนอาซิน แคลเซียมโพแทสเซียม และ แมกนีเซียม ช่วยทำความสะอาดไส้ตรง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่จะดีอย่างยิ่งหากกินในช่วงแรกของการล้างพิษ ลุกแพร์ยังมรแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติเป็นด่าง ซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่เหมาะที่จำนำมากินในช่วงล้างพิษ ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยชะล้างของเสียที่สะสม อยู่ในไตก่อนที่ของเสียเหล่านั้นจะตกผลึกกลายเป็นก้อนนิ่ว หากกินทั้งผลจะได้รับเส้นใยอาหารและกรดไฮดรอกซีซินนามิก ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอสระที่ช่วยยับยั้งสารก้อมะเร็ง นอกจากนี้ลูกแพร์ยังอุดมไอด้วยสารด้านอนุมูลอิสระและเส้นใยเพ็กตินที่ช่วยขับโลหะหนักออกจากร่างกายได้อย่างดีอีกด้วย เมื่อจะนำไปใช้ให้ล้างน้ำให้สะอาด หั่นพอหยาบ นำไปสกัดได้เลยทันที

29.9.51

สตรอว์เบอร์รี (Strawberry)


สตรอว์เบอร์รี (Strawberry) มีสรรพคุณช่วยแก้กระหาย รักษาอาการเมาค้าง สตรอว์เบอร์รีมีแคลเซียม คลอรีน โซเดียมกำมะถัน แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม วิตามินซี กรดโฟลิก และไบโดติน ดีต่อระบบขับถ่ายบำรุงพิวพรรณ ช่วยล้างพิษ ทำให้ร่างกายสะอาด แก้ไอ ขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการจุกเสียด แน่นท้อง และดีต่อเลือด เมื่อจะนำไปใช้ให้ล้างให้สะอาด หั้นพอหยาบ นำไปสกัดได้เลนทันที

27.9.51

พีช (Peach)

พีช (Peach) พีชหรือลูกท้อช่วยทำความสะอาดลำไส้เล้กและลำไส้ใหญ่ มีวิตามินซี กรดโฟลิก เบตาแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโพแทสเซียม สารอาหารเหล่านี้มักรวมรวมตัวอยู่ที่เปลือก ดังนั้นหากนำมาทำเครื่องให้ล้างน้ำให้สะอาด คว้านเอาเมล็ดออก นำส่วนเนื้อไปสกัดโดยหั่นพอยาบ

26.9.51

บลูเบอร์รี ( Blueberry )


บลูเบอร์รี ( Blueberry )

มีสีม่วงเข้มและมีรสชาติหวานหอม อุดมไปด้วยแคลเซียม วิตามีน บี1 บี2 และบี6แมกนีเซียม โครเมียม วิตามินซี กรดไบโอทิน ( Biotin Acid ) กรดโฟลิก ( Folic Acid )และกรดไฟโตเคมิคอลลาจิก ( Phytochemical Ellagic Acid ) ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันการริ้วรอยแห่งวัยนอกจากนั้นบลูเบอร์รียังมีสรรพคุณในการช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ลดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ และช่วยทำลายพิษจากอนุมูลอิสระ เมื่จะนำมาสกัดให้ล้างน้ำให้สะอาด นำไปสกัดได้เลยทันที

24.9.51

สูตรล้างสารพิษ ต้านมะเร็ง ขับลม

สูตรล้างสารพิษ ต้านมะเร็ง ขับลม
ส่วนผสม
บลูเบอร์รี 2 ถ้วย
เกรปฟรุต 1 ถ้วย
แอปเปิล 1 ถ้วย
ขิง 1 ถ้วย
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย
รายระเอียด ล้างแอปเปิลให้สะอาดมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าไม่ต้องเอาแกนหรือเมล็ดออก ปอกเปลือกขิงแล้วทุบพอแตก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หั่นเกรปฟรุตพอหยาบนำบลูเบอร์รีกับส่นผสมที่เตรียมไว้ทั้งหมดมาสกัดรวมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผัก-ผลไม้เทใส่แก้ว เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งป่น ดื่มได้ทันที

23.9.51

ประโยชน์ดีๆ ที่มีในลูกเดือย

ประโยชน์ดีๆ ที่มีในลูกเดือยสารอาหารที่มีในลูกเดือยมีแต่ของเด็ดๆ ทั้งนั้น ไล่ไปตั้งแต่วิตามินเอ-วิตามินเอ โพแทสเซียม โปรตินคุณภาพสูงเทียบเท่าโปรตินที่ได้จากข้าวโอ๊ดไขมัน คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอลัส แคลเซี่ยม ใยอาหาร- สารโคเซ็นโนไลด์ (coxenolid) ในลูกเดือยสามารถแผลงฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเนื้องอกได้ ก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นเซลล์มะเร็ง-น้ำที่ได้จากลูกเดือยต้ม มีสรรพคุณทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีทำให้ผิวสวยผมดกและเป็นเงางาม-ตำรายาจีนลูกเดือยเป็นยาชนิดหนึ่ง สามารถรักษาอาการร้อนใน บำรุงไตบำรุงม้าม ปอด กระเพาะอาหาร ขับปัสสาวะ บำรุงเลือดในสตรีหลังคลอดแก้โรคเหน็บชา อาการคลื่นใส้อาเจียน ท้องเสีย ทำให้เจริญอาหาร-น้ำลูกเดือยอุดมไปด้วยฟอสฟอรัสช่วยบำรุงกระดูก มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตานอกจากนี้ลูกเดือยยังสามารถลดน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวานได้ด้วย

22.9.51

ราสป์เบอร์รี (Raspberry)

ราสป์เบอร์รี (Raspberry) เป็นผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มเบอร์รี อุดมไปด้วยเบตาแคโรทีน ไบโอติน (Biotin) วิตามินซี และน้ำตาลฟรักโทส (Fructose) มีฟลาโวนอยด์และแอนโทไชยานิน ซึ่งเป็นสารด้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อจะนำไปใช้ให้ล้างน้ำให้สะอาด นำไปสกัดได้เลยทันที

21.9.51

ผักโขม ( Spinach )


ผักโขม ( Spinach )ผักโขมดีต่อตับเลือดและถุงน้ำดี อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และคลอโรฟีลล์ ( Chlorophyll )มีเบต้าแคโรทีน วิตามินบี6 วิตามีนซี กรดโฟลิก แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมและโซเดียม เนื่องจากผักโขมมีกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้นจนทำให้ดื่มยากสำหรับบางคน ให้แก้ไขด้วยการเจือจางด้วยน้ำเปล่า น้ำแตงกวา หรือน้ำแครอท จะทำให้ดื่มได้ง่ายมากขึ้น แม้ว่าผักโขมดีต่อการล้างพิษ แต่เนื่องจากกรดออ๊กซาลิก ( Oxalic ) ที่มีอยู่ในผักโขมจะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมดังนั้นจึงไม่ควรดื่มน้ำผัก ผลไม้ ที่มีส่วนผลมหลักเป็นผักโขมมากกว่า 1 แก้วต่อสัปดาห์ เมื่จะนำมาใช้ให้ล้างผักโขมด้วยน้ำสะอาดให้เรียบร้อย หั่นพอหยาบ นำไปสกัดได้เลยทันที

20.9.51

For Face

ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ถ้าสาวๆไม่พยามรักษาผิวหน้าให้ดีเป็นพิเศษ ก็จะเสี่ยงมากๆที่เชื้อโรคจะมาหมักหมมจนเกิดการอุดตันเกิดสิวเสี้ยน จนลุกลามใหญ่โต เบ็นสิวอักเสบได้ ดังนั้นขอแนะนำขั้นตอนการรักษาความสะอาดผิวหน้าดังนี้
1. -Cleaning ใช้ Cleanser ที่มีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรีย -สาวผิวมันควรเลือกใช้ Cleanserอ่อนๆ -ใช้กระเป๋าน้ำเย็นประคบผิวหน้าเพื่อลดขนาดรูขุมขน ฝุ่นละอองและเชื้อโรคต่างๆ จะได้หาทางเข้าไปอุดตันยากขึ้น
2.Toning ในตอนกล่งคืน หลังจากล้างหน้า ชำระล้างเครื่องสำอางค์ ออกหมดแล้วอย่าลืมใช้ Toner เช็ดทำความสะอาดผิว ก่อนทา night cream ด้วยเพื่อให้ชัวร์ว่าผิวหน้าสะอาด ปราศจากเชื้อโรคจริงๆ 3.Moisturizing ครีมบำรุงผิวที่ใช้ในช่วงเช้า ควนเป็นประเภท non-water basedทั้งนี้เพื่อให้ครีมติดทนนานขึ้นต่อให้เจอน้ำฝนหรือความชื้นก็ไม่หลุดออกไปง่ายๆ4.Exfoliating ขัดผิวหน้าบ้าง อย่างสาวผิวมันก็ขอสักอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ส่วนสาวผิวธรรมดาถึงผิวแห้งครั้งเดียวต่อสัปดาห์ก็ได้ จะได้กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ไม่ให้กลายเป็นที่หมักหมมของเชื้อโรค
แหล่งที่มานิตยสาร SPICY

19.9.51

สูตรล้างสารพิษ ต้านมะเร็ง ขับลม


สูตรล้างสารพิษ ต้านมะเร็ง ขับลม

ส่วนผสม

บลูเบอร์รี 2 ถ้วย

เกรปฟรุต 1 ถ้วย

แอปเปิล 1 ถ้วย

ขิง 1 ถ้วย

น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย

รายระเอียด

ล้างแอปเปิลให้สะอาดมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าไม่ต้องเอาแกนหรือเมล็ดออก ปอกเปลือกขิงแล้วทุบพอแตก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หั่นเกรปฟรุตพอหยาบนำบลูเบอร์รีกับส่นผสมที่เตรียมไว้ทั้งหมดมาสกัดรวมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผัก-ผลไม้เทใส่แก้ว เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งป่น ดื่มได้ทันที

18.9.51

เทรนด์บิวตี้สุดฮอต

เทรนด์บิวตี้สุดฮอต
1.ดวงตาร้อนแรง แต่งตาแบบที่ดูแล้วแม่สาวคนนี้เธออันตรายไม่ใช่เล่นด้วยการเบลนด์ครีมอายไลเนอร์สีดำหรืออายแชโดว์สีดำรอบๆดวงตา
2.อายแชโดว์สีชมพู สำหรับสาวๆทุกคนควรมีอายแชโดว์ตลับโทนสีชมพูติดโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้เลยเทรนด์นี้เหมาะกับสาวทุกสีผิว เพียงแต่เราเลือกเฉดสีชมพูที่เหมาะกับสีผิวของเรา
3.พื้นฐานผิว เตรียมผิวก่อนที่จะลงฟาวเดชั่นด้วยไพรเมอร์หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ แต่ต้องแน่ใจว่ามันจะไม่ทำให้ผิวเหนียวเหนอะ
4.ผิวแวววาว สำหรับสภาพอากาศแบบนี้ควรเลือกลิควิดฟาวเดชั่นที่บางเบาไม่ให้ผิวดูแห้งผากแต่ดูชุ่มชื้นแนเชอรัล ฟินิช ลองลาสติ้ง ฟาวเดชั่น SPF15
5.เพอร์เฟ็คท์ ปกปิดความไม่เพอร์เฟ็คบนใบหน้าด้วยเพอร์เฟ็ค อะเกน สีperfect nude
6.พาวเดอร์ เสร็จขั้นตอนด้วยการปัดแป้งฝุ๋นลงไป และควรเลือกแป้งฝุ่นที่เป็นชนิดโปร่งแสง เพื่อจะได้เหมาะกับทุกสีผิว
7.เปล่งปลั่งแบบเบาๆ บลัชครีมสีพีชเป็นสิ่งที่ควรปราถนาสำหรับสาวๆ ในซีซั่นนี้ และเพื่อหลีกเลี่ยงลุคที่ดูจ้าจัดเกินไปแต่ดูสวยเป็นธรรมชาติ เหล่านางแบบจะใช้พวกทินท์ ชีคสเตน หรือครีมลบัชเกลี่ยทับลงไปบนรองพื้นเนื้อเบาเพื่อให้ดูระเรื่อเป็นธรรมชาติ
8.แดงเฉดใหม่ เบอร์รี่ ความร้อนแรงของสีแดงแบบริมฝีปากของมาริลีน มอนโรว์ก็ยังคงคลาสสิกอยู่ แต่สีแดงแบบเบอร์รี่คือ ดูเป็นเฉดสีแดงเข้มกำลังหน้าสนใจทีเดียว เป็นเทรนด์ที่ทำให้ผู้หญิงดูสวยลึกลับน่าค้นหา9.ขนตาปลอม เรียกได้ว่าเป็นเครื่องประดับแฟชั่นที่เราชอบมากมีลูกเล่นและใช้เปลี่ยนถาพลักษณ์
10.เปลื่อกตาเมทัลลิค เปลือกตาเมทัลลิคจะฮอตมากสำหรับฤดูกาลนี้ บราวน์ ผู้แนะนำการแต่งดวงตาแบบสีตรงข้ามบอกว่า ดวงตาสีน้ำตาลจะดูสวยเมื่ทาเปลือกตาดว้ยสีเงินอมเทา
11.กลอสสีชมพู ลิปกลอสสีโปรดสมัยเป็นสาววัยใสกลับมาแล้ว ริมฝีปากอิ่มเอิบแวววาวสีชมพูกลอสซี่เหมาะกับสาวๆทุกคน
12.ตาสดใส ถ้าหน้าโทรมๆ เราสามารถเฟคให้ดูแววตาสดใสได้ด้วยการเติมอายไลเนอร์ที่ขอบตาด้านในบริเวณตาลอง เพียว คัลเลอร์ เพิร์ล ซัมเมอร์แชโดว์ สี white peart แตะนิดๆที่หัวตาจะดูตาสว่างเด่นขึ้นมาเลย
13.โหนกแก้มนางแบบ โหนกแก้มเด่นเด้งดูมีมิติรับกับใบหน้าของนางแบบเราก็ทำได้เหมือนกันด้วยการปัดบลัชอย่างฉลาด ถ้าอยากมีโหนกแก้มเด่นๆ ก็ให้เบลนด์บรอนเชอร์ให้อยู่ส่วนล่าง ของโหนกแก้มแล้วปัดสีป๊อบๆ ถูกใจลงบนพวงแก้ม

17.9.51

วีตกราส ( Wheat grass )

วีตกราส ( Wheat grass )วีตกราสหรือต้นอ่อนข้าวสาลีช่วยฟอกโลหิต ชะล้างสารพิษที่ตกค้าง ทำให้ร่างกายสะอาดและเพิ่มกำลังวังชา วีตกราสอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบีรวมแคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยอาหารอีกด้วย น้ำวีตกราสคั้นสดมีคลอโรฟีลล์ที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดเลือด และทำให้เซลล์เม็ดเลือดแข็งแรง ช่วยปรับเลือดและเนื้อเยื่อให้มีความเป็นด่าง นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่สำคัญ วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์ร่างกายใหม่ๆ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยเอนไซม์ที่สดใหม่อีกด้วย เมื่อจะนำมาใช้ให้ล้างใบวีตกราสให้สะอาด หั่นพอหยาบ นำไปสกัดได้เลยทันที

16.9.51

แพชชันฟรุต (Passion Fruit)

แพชชันฟรุต (Passion Fruit) แพชชันฟรุตหรือเสาวรสอุดมไปด้วยเบตาแคโรทีน วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียมและวิตามินบี3 เมื่อนำมาทำเครื่องดื่มให้เลือกส่วนที่เป็นเนื้อและไส้มาสกัดเอาน้ำ โดยใช้ช้อนคว้านออกมา

15.9.51

บีตรูต (Beetroot)

บีตรูต (Beetroot)
บีตรูดมีสรรพคุณในการทำความสะอาดตับและลำไส้ตอนล่าง ดีต่อตับและไต ช่วยกระตุ้นและบำรุงลำไส้ ช่วยขับสารพิษ ช่วยฟอกเลือดและฟอกไต ดีต่อระบบย่อยอาหาร ช่วยบำรุงรักษาเซลล์เม็ดเลือดแดง อุดมไปด้วยวิตามินบี1 บี2 และบี6 กรดโฟลิก แคลเซียม แมกนีเซียมฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และ สังกะสี บีตรูดช่วยเสริมความสามารถในการรับออกซิเจนให้แก่เม็ดเลือดแดง ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้แก่เซลล์ถึง 400 เปอร์เซนต์ ช่วยทำให้ประจำเดือนมาเป็นปรกติ นอกจากนั้น เนื่องจากมีบีเทนบีตรูดจึงมีสรรพคุณในการช่วยสันดาปไขมันโดนเปลี่ยนคอเลสตรอรอลให้กลายเป็นกรดน้ำอีกด้วยเมื่อต้องนำไปใช้ให้ล้างน้ำให้สะอาด สับพอหยาบ นำไปสกัดได้เลยทันที

14.9.51

เลือกรับประทาน


เลือกรับประทาน

ฝรั่งสด น้ำฝรั่ง มะละกอ ส้ม ลูกเกดสีดำอบแห้ง ฯลฯซึ่งมากไปด้วยวิตามินซี ที่จะช่วยเก็บรักษาคอลลาเจนที่เป็นบ่อเกิดแห่งโปรตีนภายไต้ผิวหนัง เมื่อผิวหนังเต่งตึงไม่หย่อนยานแล้วความงามแห่งวัยเยาว์ก็จะอยู่กับคุณไปอีกนาน บำรุงผมให้แข็งแรงด้วยการรับประทานกล้วย ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินบีมีสรรพคุณป้องกันผมร่วงได้ดีแบบไม่ต้องพึ่งสารเคมี อย่ากผิวเนียนใสเหมือนเด็กไปนานๆ ลองรับประทาน มะม่วง ซึ่งเบต้าแคโรทีนในมะม่วงจะช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพดี โดยช่วยกระตุ้นการสร้างผิวหนังใหม่เพื่อทดแทนผิวที่หยาบกร้าน ให้กลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง

13.9.51

วอเตอร์เครส ( Watercress )

วอเตอร์เครส ( Watercress )อุดมไปด้วยวิตามินซี คลอโรฟีลล์ เหล็ก กำมะถัน เบต้าแคโรทีน ไบโอติน แคลเซียมโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และไฟโตเคมืคอล ไอโซไทโอไซยาเนต ที่ช่วยทำลายสาร ก่อมะเร็ง มีประโยชน์ต่อลำไส้ใหณ่และทางเดินอาหาร ช่วยล้างสารพิษออกจากตับและไต ช่วยฟอกโลหิต ชะล้างของเสียออกจากร่างกาย เสริมสร้างจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ เนื่องจากน้ำวอเตอร์เครสมีความเข้มข้นสูง และมีรสชาติเผ็ดร้อนเหมือนพริกซึ่งเกิดจากน้ำมันเบนซิมัสตาร์ด เพื่อให้ดื่มได้ง่ายยิ่งขึ้น ควรเจือจางด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำ ผัก ผลไม้ที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า เช่น น้ำแครอท หรือน้ำแตงกวา เมื่อจะนำมาใช้ให้ล้างใบและก้านของวอเตอร์เครสให้สะอาด หั่นพอหยาบ นำไปสกัดได้เลยทันที

12.9.51

oily skin

oily skinแป้งฝุ่นเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับสาวผิวมันเลยล่ะแต่ต้องระวังนิดอย่าโป๊ะให้หนาจนเกินไปนัก เพราะจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติและอาจเละเยิ้มเวลาที่โดนกับเหงื่อและความมันบนผิวหน้าได้ ดังนั้นทุกครั้งที่รู้สึกว่าผิวหน้าเริ่มมันให้ซับความมันออกด้วยกระดาษซับมันหรือทิชชู แล้วค่อยทาแป้งฝุ่นทับลงไป

11.9.51

สูตรล้างสารพิษบำรุงผิวลบเลือนริ้วรอย


สูตรบำรุงผิวลบเลือนริ้วรอย

ส่วนผสม

แอพริคอต 2 ถ้วย

ส้ม 2 ถ้วย

น้ำแร่ 1 ถ้วย

น้ำแข็งป่น 1 ถ้ว

รายระเอียด

ล้างแอ็พริคอตให้สะอาด ผ่าครึ่งเอาเมล็ดออก หั่นพอหยาบ ส้มแกะออกเป็นกลีบๆไม่ต้องเอาเมล็ดออก นำส่วนผสมทั้งสองไปสกัดรวมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผัก-ผลไม้ เมื่อได้น้ำผลไม้สกัดแล้ว ให้เจือจางด้วยการเติมน้ำแร่ลงไปเล็กน้อย เติมน้ำแข็งป่นดื่มได้ทันที

10.9.51

สูตรล้างพิษลดเครียด


สูตร ลดเครียด

ส่วนผสม

บลูเบอร์รี 1 ถ้วย

แอปเปิล 2 ถ้วย

น้ำแร่ 1 ถ้วย

น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย

รายระเอียด ล้างแอปเปิลให้สะอาดมาหั่นเป็นชิ้นขนาดกลางไม่ต้องเอาแกนหรือเมล็ดออก นำไปสกัดพร้อมกับบลูเบอร์รีด้วยเครื่องสกัดน้ำผัก-ผลเติมน้ำแร่ลงไปในน้ำผลไม้ที่ได้คนให้เข้ากัน ดื่มได้ทันที หรือ เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งป่น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น

สูตรบำรุงผิวลบเลือนริ้วรอย

สูตรบำรุงผิวลบเลือนริ้วรอย
ส่วนผสม
แอพริคอต 2 ถ้วย
แอปเปิล 1 ถ้วย
พีช 1 ถ้วย
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย
รายระเอียด นำแอปเปิลมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ล้างแอ็พริคอตให้สะอาดผ่าครึ่งเอาเมล็ดออก หั่นพอหยาบ ล้างลูกพีชให้สะอาดผ่าครึ่งเอาเมล็ดออก หั่นพอหยาบ นำส่วนผสมทั้งหมดไปสกัดรวมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผัก-ผลไม้ เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งป่นดื่มได้ทันที

9.9.51

ลุคส์ใสๆ

อยากเป็นเจ้าของลุคส์ใสๆ สมวัยสาวไม่ใช่เรื่องยาก แค่ทำตาม10 ขั้นตอนที่ว่านี้ สาวๆก็สามารถโชว์ความไบรท์ให้ใครไอิจฉากันได้แล้ว
Step 1 ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด
Step 2 บำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นด้วยมอยช์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด
Step 3 ปกปิดริ้วรอยและความหมองคล้ำรอบดวงตา(ถ้ามี) โดยแต้มด้วย คอนซีลเลอร์บางๆ
แล้วเกลี่ยให้เนียนเสมอไปกับผิว
Step 4 หากคุณมีผิวหน้าที่เนียนใสอยู่แล้ว สามารถข้ามขั้นตอนการรองพื้นไปได้เลย แต่ถ้ามีรอยสิว
หรือริ้วรอยอะไรที่อยากจะพรางล่ะก็ ให้ลงครีมรองพื้นสีใกล้เคียงกับ สีผิวบางๆ เฉพาะบริเวณที่
อยากจะ ปกปิด จากนั้นเกลี่ยให้กลมกลืนไปกับผิว
Step 5 ทาทับด้วยแป้งฝุ่นให้เนียนทั่วทั้งหน้าและลำคอ
Step 6 ปัดคิ้วให้เรียงเป็นระเบียบโดยใช้แปรงสำหรับปัดคิ้วโดยเฉพาะ
Step 7 แต่งเติมสีสันให้เปลือกตาด้วยอายแชโดว์ บางใสสีอ่อนๆ อย่างสีชมพู สีพีช สีเหลืองออ่น สีขาว
Step 8 ปัดแก้มให้พอดูมีเลือดฝาดด้วยบลัชออนโทนสีชมพูหรือสีพีช หรือจะปัด บางๆ ด้วย
บรอนเซอร์ ก็ได้
Step 9 ดัดขนตาให้งอนเด้งเข้าไว้ แล้วเพิ่มความยางและหนาให้ขนตาด้วยการ ปัดมาสคาร่าทับซัก2 รอบ
Step 10 ปิดท้ายด้วยการทาลิปกลอส หรือทาลิปสติกเนื้อบางๆ ที่ริมฝีปาก พยายาม หลีกเลี่ยงการใช้
ลิปไลเนอร์เขียนขอบปาก เน้นการเป็นธรรมชาตฺเข้าไว้จะเวิร์คสุดๆ

8.9.51

ความงามกำหนด

กรรมพันธุ์ทางความงามกำหนดไว้ว่า สาวเอเชียส่วนใหญ่มักมีตาชั้นเดียวดังนั้นสาวๆ ทั้งหลายจึงควรหันมาพึ่งพาบริการของอายไลเนอร์กันบ้างเน้นให้ดวงตาโตเหมือนตากวางน้อย นอกจากนี้อายไลเนอร์ ยังเป็นดัชนีบ่งชี้ความเป็น"โปร "ในการแต่งหน้าอีกต่างหาก 1.ก่อนอื่นหัดเกร็งตาโดยไม่ต้องกระพริบให้นานๆ เพราะยามวาดอายไลเนอร์คุณจะต้องเบิ่งตาค้างไว้หลายวินาที 2.อายไลเนอร์ชนิดน้ำจะให้เส้นที่คมชัด เฉียบคม เหมือนสาวไฮโซยุค50แต่ถ้ารู้ตัวว่าฝีมือจัดจัดจ้านระดับเด็กอนุบาลเรียนวาดเขียนก็ควรรู้จักประมาณตน หันมาใช้อายไลเนอร์ที่เป็นดินสอเขียนขอบตาดีกว่า ทั้งนี้ต้องระวังว่า กรณีเป็นสาวขอบตามัน สีตาอาจเลอะลงมาระหว่างวันได้ 3.นั่งหน้ากระจก ตั้งศอกไว้บนโต๊ะแล้วบรรจงกรีดอายไลเนอร์ให้พู่กันอยู่ชิดขนตาให้มากที่สุด จำไว้ว่าอย่าลังเล ควรวาดอายไลเนอร์ให้เส็รจภายในคราวเดียวไม่ควรวาดซ้ำไปซ้ำมา เพราะเส้นที่ได้จะเป็นลูกคลื่น 4.ถ้าพลาดแล้วไม่พลาดเลย แก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยด้วยการใช้แปรงแต่งหน้าขนาดเล็กระบายอายแชโดว์สีดำเข้มขึ้นซึ่งผสมน้ำเล็กน้อยลงบนอายไลเนอร์ที่แห้งแล้ว วิธีนี้ช่วยปกปิดคลื่นหมึกที่ไม่เรียบให้ดูเนียนเป็นเนื้อเดียว 5.ส่วนใครพิสมัยดินสอเขียนขอบตา หรือใช้แปรงหัวต้ดแข็งๆ ที่ใช้สำหรับวาดขอบตาโดยเฉพาะแทนที่การใช้อายไลเนอร์ชนิดน้ำ ขอแนะนำเทคนิคงายๆด้วยการใช้แปรง"จุด"ให้ชิดขอบตาทีละน้อย ไล่ไปเรื่อยๆจนถึงหางตาตามที่ต้องการ วิธีนี้แม้เส้นเส้นจะไม่เฉียบคมเท่าแต่ว่าสีที่ได้จะแทรกซึมเข้าไปบริเวณขนตาดูคมสมจริง ไม่ดูเหนือจริงอย่างชนิดน้ำ

แอพริคอต ( Apricot )


แอพริคอต ( Apricot ) ลักษณะทั่วไปมีสีเหลือง อุดมไปด้วยกรดมาลิก ซึ่งมีสรรพคุณในการทำความสะอาดลำไส้เล็กแอพริคอตสด อุดมไปด้วย สารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีคุณสมบัติในการต้านความเสื่อมโทรมและความร่วงโรยของเซลล์และเนื้เยื่อที่ดีเยี่ยมมีการพบว่ายิ่งผลแอพริคอตมีสีเข้มมากเท่าไหร่ จะมีปริมาณของเบต้าแคโรทีนสะสมอยู่เป็นจำนวนมากเท่านั้น เมื่อต้องนำมาสกัดให้ล้างให้สะอาด ผ่าครึ่ง คว้านเอาเมล็ดแข็งออกนำไปสกัดได้ทันที

7.9.51

มาสคารา ทรู

. หลังจากเปิดใช้แล้ว มาสคาราจะมีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้น ดังนั้นลองสังเกตดูว่า หากเวลาดึงปลายมาสคาราออกมาแล้วไม่มีเสียง"ป๊อป"แสดงว่ามาสคาราเริ่มเสื่อมแล้ว
. ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรจะดึงด้ามมาสคาราเข้าๆออกๆหลายครั้ง เพราะจะทำให้อากาศเข้าไปข้างใน และพลอยทำให้มาสคาราแห้งไวก่อนเวลาอันควร
. ใช้มาสคาราแบบกันน้ำได้เสมอ ถ้าไม่อย่ากกลายร่างเป็นสมาชิกดัมส์แฟมิลี่ในระหว่างวันเพราะพิษมาสคาราเยิ้ม
. ลักษณะหัวแปรงปัดสามารถบ่งบอกคุณลักษณะของการใช้งานได้หัวแปรงเป็นรูปโค้งช่วยให้ปัดขนตาได้งอนขึ้น หัวแปรงอ้วน ขนหนาช่วยให้ขนตาดูหนา เพราะสามารถเครือบขนตาได้ละเอียด หัวแปรงเล็ก ไม่ค่อยมีขนเหมาะสำหรับสาวที่ต้องการเน้นมาสคาราตั้งแต่รากจรดปลายอย่างแท้จริง
-----------------------------------------------------------------------------------
tip*ถ้ารู้ตัวว่าเป็นสาวขนตาทื่อ ทิ่มลง ไม่โค้งออ่นช้อย ต่อให้ทำโฆษณาการันตีว่ามาสคารานั้นๆ ช่วยผลักขนตาให้งอนเช้ง อย่างไรก็อย่าเชื่อหมดใจ พึงคว้าที่ดัดขนตามาเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกก่อนปัดมาสคาราเสมอ ไม่เช่นนั้นปัดอย่างไรก็ไม่งอน
------------------------------------------------------------------------------------

6.9.51

สูตรล้างพิษ บำรุงผิว

ล้างพิษ บำรุงผิว
ส่วนผสม
แอปเปิ้ลแดง 1 ถ้วย
ขึ้นฉ่าย 1 ถ้วย
กีวี 1 ถ้วย
มะนาวฝรั่ง 1 ถ้วย
อะโวคาโด 1 ถ้วย
น้ำแร่ 1 ถ้วย
แข็งป่น 1 ถ้วย
รายละเอียด ล้างแอปเปิ้ลแดงให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ ไม่ต้องคว้านเอาไส้ทิ้ง หั่นขึ้นฉ่ายเป็นท่อนๆ ปอกเปลือกกีวีออก ฝานเป็นแว่นๆ นำส่วนผสมทั้งหมดไปสกัดรวมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผลไม้ คั้นมะนาวฝรั่งเอาแต่น้ำ คว้านอะโวคาโดเอาแต่เนื้อ ปั่นเนื้ออะโวคาโดพร้อมกับน้ำมะนาวฝรั่งและน้ำผักสกัดที่เตรียมไว้เข้าด้วยกัน ปั่นประมาณ 10 วินาที หากส่วนที่ผสมข้นเกินไปให้เติมน้ำแร่ลงไปเล้กน้อยเติมน้ำแข็งป่นลงไป ปั่นต่ออีก 10 วินาที เสริ์ฟได้ทันที

4.9.51

ปัดอย่างโปร



ปัดอย่างโปรเซียนเคื่รองสำอางนานาแบรนด์เนรมิตคุณสมบัติของ
มาสคารามาอย่างหลากหลายแต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคการปัดด้วยที่จะทำให้ขนตาแปรเปลี่ยนไปตามต้องการอย่างไร
  • ขนตาหนา ยิ่งปัดหลายชั้นเท่าไรก็ยิ่งได้ขนตาหนามากขึ้นเท่านั้น วางมาสคาราให้ชิดโคนขนตายกขึ้นแล้วปัดออกด้านนอก แล้วใช้หวีสำหรับแปรงขนตาแปรงส่วนเกินของมาสคาราที่จับตัวเป็นก้อนออกไป ปัดชั้นต่อมาซ้ำอีกครั้ง จำไว้ว่า ต้องปัดขณะที่ชั้นแรกยังคงเปียกอยู่จึงจะดี
  • ขนตายาว ปัดมาสคาราสองชั้นแล้วแปรงมาสคาราส่วนเกินออกไป ขณะที่ขนตายังเปียกอยู่ปัดมาสคาราเพิ่มบริเวณช่วงหางตา ของขนตาบนอีกสองชั้น เพิ่มให้ขนตาดูยาวเป็นพิเศษ
  • ขนตามีน้ำหนัก แกว่งมาสคาราไปมาบริเวณโคนขนตาเล็กน้อย แล้วค่อยปัดออกมาเพื่อช่วยเพิ่มสีให้บริเวณโคนขนตาให้เข้มขึ้น
  • ขนตาเป็นธรรมชาติ ถ้าสีผมและสีหน้าเป็นโทนออ่น ปัดมาสคาราสีน้ำตาล จะให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลกว่าก่อนปัดเช็ดแปรงด้วยทิชชู แล้วปัดมาสคาราตั้งแต่โคนจรดปลายเพียงชั้นเดียว ขณะที่ขนตายังเปียกให้เช็ดมาสคาราส่วนเกินบริเวณปลายขนตาออกด้วยทิชชูหรือใช้ปลายนิ้วบีบออกเบาๆ
  • ขนตาเซ็กซี่ เริ่มต้นด้วยการปัดขนตาอย่างเต็มสตีมตั้งแต่โคนจรดปลายหนึ่งชั้น แล้วใช้ปลายมาสคาราปัดปลายขนตาไปมาทั้งบนและล่าง วิธีนี้จะทำให้ขนตาหนา ทว่าดูยุ่งเหยิง ชวนมอง

3.9.51

tips


*tips - ควรเลือกใช้ลิปสติกสีแดง
เนื้อแมตช์ เพราะจะได้ไม่ดูมันวาวมาก
เกินไป - เติมลิปกลอสบริเวณกึ่งกลางริม
ฝีปากล่างเพียงเล็กน้อย จากนั้นเม้มปากเบาๆ
เพื่อเพิ่มประกายวับวาวให้เรียวปากดูชุ่มชื้นแต่พองาม
*tips - ในเมื่อริมฝีปากเป็นสีแดงฉ่ำแล้ว
ก็ควรแต่งหน้าในบริเวณอื่นๆ ด้วยโทนสีบางเบา
เป็นธรรมชาติ เพื่อขับเน้นให้เรียวปากดูโดดเด่นเป็น
นางเอก - ริมฝีปากสีแดงสดเข้ากันได้ดีกับขอบตาดำขลับ อาจเลือกกรีดอายไลเนอร์
สีดำเป็นเส้นบางๆ แต่คมกริบ หรือปัดมาสคาร่าให้ขนตาเป็นแพดก

2.9.51

มนตร์วิเศษเสกปากสวยสะกดใจ

มนตร์วิเศษเสกปากสวยสะกดใจ
1.ขัดปากขจัดเซล์เปื่อย ริมฝีปากเป้นบริเวณที่มีความอ่อนบางกว่าบริเวณอื่นๆบนผิวหน้า ดังนั้นการจะใช้สครับสำหรับใบหน้าคงไม่เหมาะนักเพราะอาจเกิดการระคาบเคือง ลองเปลี่ยนมาทาปิโตรเลียมเจลบางๆให้ทั่วริมฝีปาก หรือหลังอาบน้ำใช้น้ำอุ่นชโลมให้ทั่วริมฝีปากสักพัก จากนั้นใช้ผ้าขนรหนูขัดริมฝีปากเบาๆ อย่าลืมปิดท้ายด้วยการทาลิปบาล์มหลังอาบน้ำทุกครั้ง
2.เติมความชุ่มชื่นคืนเรียวปาก เลือกลิปบาล์มบำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินอีเพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปาก หรือ เลือกที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก(Salicylic Acid) ช่วยขจัดเซลล์เก่าให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน หรือมีเรตินอล ลดเลือนรอยเหี่ยวย่นของริมฝีปากพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ลิปบาล์มที่มีรสผลไม้หอมหวนชวนรับประทานทั้งหลาย เพราะบ่อยครั้งกลิ่นยั่วน้ำลายนี้จะทำให้คุณแอบเลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว น้ำลายมีสภาพเป็นกรด ทำให้ปากแห้งไปโดยปริยาย
3.เลือกสีปากอย่างมืออาชีพ ปล่อยวางเทคนิคดึกดำบรรพ์ ที่เที่ยวแต้มสีลิปสติกลงบนหลังมือแล้วนำไปเทียบกับแสงไฟนีออนหน้าเคาน์เตอร์เครื่องสำอางเพราะอันที่จริงริมฝีปากแต่ละคนประกอบไปด้วยเม้ดสีที่แตกต่างกัน การลองลิปสติกควรลองกับริมฝีปากจึงจะได้สีที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด แต่อาจเสี่ยงต่อปัญหาด้านสุขอนามัย ควรเปลี่ยนมาแต้มตัวอย่างสีลงบนปลายนิ้ว สีที่ได้จะใกล้เคียงกับสีปากมากกว่า แถมยังสามารถยกขึ้นมาเทียบใกล้ๆ กับริมฝีปากได้ง่ายกว่าด้วย
4.รู้จักดินสอเขียนขอบปาก นอกจากจะเป็นแท่งไม้กายสิทธิ์เนรมิตรูปปากใหม่ได้ดังใจแล้ว ดินสอเขียนขอบปากยังสามารถเป็นปราการที่คอยกั้นไม่ให้ลิปสติกซึมเลอะออกมานอกปาก ไม่จำเป็นต้องเลือกดินสอเขียนขอบปากสีเดียวกับลิปสติกเสมอไป ควรเลือกที่มีสีใกล้เคียงกับสีผิวบริเวณริมฝีปากให้มากที่สุด จะดีกว่า เผื่อยามลิปสติกเริ่มลบเลือนจะได้ไม่ต้องเหลือรอบเส้นดินสอเขียนขอบปากลอยเด่นอยู่ ดูน่ากลัวพิลึก ส่วนวิธีการใช้นั้น ก่อนอื่นควรลงรองพื้นบริเวณริมฝีปากก่อน แล้วค่อยวาดเส้นขอบปาก จากนั้นใช้พู้กันแต้มลิปสติกที่ต้องการ ระบายสีไปในกรอบที่บรรจงวาดไว้ การใช้พู่กันจะช่วยคุมน้ำหนักในการระบายสีได้ดีกว่า
5.หยุดรอยเยิ้มรอบปาก เลือกลิปสติกชนิด Long-lasting กันเหนียวไว้จะดีเอง หรือก่อนทาลิปสติกใช้รองพื้นทาบางๆให้ทั่วริมฝีปากหนึ่งชั้น แล้วจึงทาลิปสติกที่ต้องการ จากนั้นเม้มปากลงบนทิชชู แล้วทาแป้งฝุ่นทับอีกชั้น ปิดท้ายด้วยการทาลิปสติกซ้ำอีกหน ส่วนถ้ามีปัญหาลิปสติกเยิ้มติดตามซอกฟันอาจถูกเข้าใจผิกว่าป่วยเป็นโรคเลือดออกตามไรฟันได้ หลังทาลิปสติกเสร็จลองใช้นิ้ววางไว้ระหว่างริมฝีปากบน-ล่างแล้วเม้มปากไปตามรูปนิ้วเบาๆ ลิปสติกที่ค้างอยู่ตามริมฝีปากด้านในจะติดมากับนิ้วแทนที่จะสยายตัวอยู่ตามร่องฟันอย่างที่หวาดกลัว
อุส่าห์ดูแลปากจนสวยได้ที่แล้วอย่าลืมดูแลคำพูดที่หลุดออกมาให้สวยอีกสักอย่าง จะได้มีแต่คนมารุมรัก

28.8.51

วิธีปัดบลัชออน

สาวหน้ากลม พื้นที่แก้มมีมากกว่าคนทั่วไป ส่วนปลายคางค่อนข้างสั้นมน วิธีการปัดบลัชออนควรเริ่มจากปัดแก้มให้รูปสามเหลี่ยมตะแคงโดยให้ฐานของสามเหลี่ยมอยู่ขนานกับใบหู และให้สีของบริเวณขากรรไกรเข้มกว่าบริเวณอื่นเล็กน้อย แล้วอย่าลืมเกลี่ยให้สีค่อยๆกระจายกลืนไปกับสีผิวสาวหน้าขาว เป็นคนที่มีพื้นที่ตั้งแต่หน้าผากถึงปลายคางกว่าปรกติแต่มีใบหน้าค่อนข้างแคบ ดังนั้นควรปัดบล้ชออนเป็นแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้าไปตามแนวกระดูกโหนกแก้ม ให้พื้นที่ใกล้ๆกับใบหูมีสีเข้มกว่าบริเวณอื่นแล้วเกลี่ยไล่ให้กลมกลื่นกับสีผิว จากนั้นใช้แป้งฝุ่นทาบางๆ ทำให้แก้มดูเนียนขึ้นสาวหน้าเหลี่ยม อย่าเพิ่งท้อใจว่าเป็นสาวภูธรกรามโต เพราะมีขากรรไกรกางออกกว้างเป็นพิเศษกว่าใบหน้าแบบอื่นๆ ปัดบลัชออนจากข้างใบหู ไล่เข้ามายังพวงแก้ม ในแนวเฉียง โดยให้น้ำหนักบริเวณข้างใบหูเข้มกว่า เกลี่ยให้เนียนกลืนไปกับผิว แล้วใช้สีน้ำตาลปัดบริเวณขากรรไกรทั้งสองข้างเพื่อช่วยลบกรามไม่ให้เห็นเด่นชัดสวนสุขภาพดีอย่างนี้แล้วควรมีจิตกุศล แผ่เมตตามายังร่างกายด้วยการหาเวลาออกกำลังกายให้แก้มแดงไปตามเจตนาและเงื่นไขของธรรมชาติเสียบ้างเพราะนอกจากจะทำให้แก้มเต่งเปล่งปลั่งและสุขภาพดีจริงแล้ว หลังจากเสียเหงื่อร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้รู้สึกมีความสุข อารมณ์ดีและมีเสน่ห์

27.8.51

มะนาวฝรั่ง( Lemon )

มะนาวฝรั่ง( Lemon )เลมอนหรือมะนาวฝรั่งช่วยชะล้างสารพิษทำให้ร่างกายสะอาด ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันมีวิตามินซีและกรดซิตริก( Citric Acid ) สูงในบรรดาพืชจำพวกส้มและมะนาวทั้งหลาย นิยมนำน้ำไปผสมในเครื่องดื่มชนิดอื่นๆหรือจือจางด้วยน้ำเปล่าก่อนดื่ม น้ำเลมอนคั้นสดเป็นอาหารชนิดเดี่ยวที่มีประจุลบที่จะไม่พบในน้ำที่ได้จากผลไม้จำพวกส้มหรือมะนาว ประจุลบและประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในการปรับสภาพร่างกายให้มีความเป็นด่าง ทำให้น้ำเลมอนคั้นสดใหม่เป็นหนึ่งในอาหารที่มีประสิทธิภาพในการชะล้างสารพิษมากที่สุด
เพื่อให้ได้ประโยชน์ในการล้างสารพิษจากน้ำเลมอนมากที่สุด ให้ผสมน้ำเลมอนที่คั้นสดใหม่กับน้ำสะอาด1 แก้ว โดยไม่ตองเติมน้ำตาลหรืสารให้ความหวาน และให้ดื่มทันทีเพื่อคงประจุที่มีฤทธิ์ในการขับสารพิษไว้ให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้น้ำเลมอนคั้นสดยังมีส่วนช่วยตับในการผลิตน้ำดี หากปราศจากน้ำดีในปริมาณที่มากพอ ร่างกายจะไม่สามารถย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่เท่าที่ควร

รักษาสิว ลบเลือนริ้วรอยแห่งวัย

รักษาสิว ลบเลือนริ้วรอยแห่งวัย
สูตรเดรื่องดื่มล้างสารพิษ
ส่วนผสมลูกแพร์ 2 ถ้วย
มะนาวฝรั่ง 1 ผล
วอเตอร์เครส 1 ถ้วย
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย
รายละเอียด
หั่นลูกแพร์เป็นลูกสี่เหลี่ยมลูกเต๋า มะนาวฝรั่งคั้นเอาแต่น้ำ สับวอเตอร์เครสพอหยาบ นำลูกแพร์และวอเตอร์เครสไปสกัดเอาแต่น้ำด้วยเครื่องสกัดน้ำผักผลไม้ เมื่อได้น้ำสกัดแล้วให้เติมน้ำมะนาวฝรั่งลงไป คนให้เข้ากัน เติมน้ำแข็งป่น ดื่มได้ทันที

การลงบลัชออน

การลงบลัชออนไม่ใช่การระบายสีพวงแก้มจนแดงอิ่มเป็นลูกตำลึงสุกชนิดเดินไปไหนเห็นแต่แก้มลอยมาแต่ไกล จนกลายเป็นสัญญาณไฟจราจรเดินได้ แต่(ควรเลื่อกสีบลัชออนที่เข้มกว่าผิวจริงสัก 2 ระดับ)และเลือกสีที่เข้ากับสีผิวธรรมชาติของคุณเป็นที่สุด ถ้าเป็นสาวผิวขาว เลือกบลัชออนที่มีพื้นสีชมพูแต่ถ้าเป็นสาวผิงเข้มเป็นน้ำผึ้งเดือนห้า บลัชออนที่มีพื้นสีอมส้มหรือน้ำตาลจะดูเหมาะกว่าและถ้าไม่อยากซื้อบลัชอนหลายๆเฉดควรเลือก( บลัชออนสีกลางๆ อย่างสีพีชPeach สีเบจ Beigeสีน้ำตาลเข้ม Tawny สีเดียว)ตีตั๋วเป็นสาวสุขภาพดีได้ทุกสถานการณ์หรือจะให้ดี ลองสังเกตุผิวหลังจากสบัดกล้ามเนื้อออกกำลังกายแล้วมองหาสีปลัชออนที่มีสีใกล้เคียงกันมาใช้ แต่ถ้าขี้เกียจออกแรง สีริมฝีปากเป็นมาตรฐานง่ายๆที่ใช้พิจารณาเฉดสี แต่วิธีที่เหมาะสาวที่ไม่เคยลิ้มลองนิโคตินผ่านบุหรี่ก้นกรองเท่านั้นหรือจะลองหยิกแก้มตัวเองเบาๆก็ได้เช่นกัน( อย่าเอาถึงขั้นเป็นจ้ำเขียวนะจ๊ะ)

25.8.51

ก่อนแต่งหน้า

ก่อนแต่งหน้าควรทาครีมบำรุงผิวทิ้งไว้ 10-15นาที แล้วค่อยทารองพื้นจากส่วนที่มีพื้นที่กว้างก่อน เริ่มจากสองข้างแก้ม แล้วจึงไปที่คาง หน้าผาก ตา และจมูก ถ้าต้องใช้ฟองน้ำในการเกลี่ยควรเลือกฟองน้ำแบบแบนที่เป็นรูปไข่ เพราะจะมีพื้นที่สัมผัสมากกว่าและควรแน่ใจว่าบีบน้ำออกจากฟองน้ำจนหมาดดีแล้วเริ่มต้นทารองพื้นด้วยปริมาณน้อยๆ แต่ถ้ายังปกปิดไม่ได้ตามต้องการค่อยทาเพิ่มการเติ่มเมื่อขาด ดีกว่าการพอกจนหนาเกินไปแล้วต้องลบเครี่องสำอางทั้งหน้าเพื่อแต่งหน้าใหม่

ชนิดของลิปสติก


ชนิดของลิปสติก
ลิปสติกที่ดีควรจะทาแล้วรู้สึกเนียนนุ่มไม่เลอะซึมหรือเลือนหายได้ง่าย และไม่ทำให้ริมฝีปากรู้สึกแห้งตึงหลังทาถ้าเป็นไปได้ควรเลือกลิปสติกที่มีส่วนผสมของวิตามินอี เพื่อช่วยบำรุงริมฝีปากไม่ให้ลอกหรือดำคล้ำหลังใช้
Matte Lipstick มีส่วนผสมของเนื้อแป้งค่อนข้างมาก ทาแล้วเนียนติดทนนานแต่สาวๆพึ่งระวัง เพราะอาจส่งผลข้างเคียงให้ริมฝีปากแห้งราวกับทะเลทรายสะาราได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ลิปสติกแบบ Creamy หรือ DemiMatte แม้จะมีความหนาแน่นของสีลดน้อยลงแต่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์มากขึ้นทำให้ริมฝีปากสวยอิ่ม ดูชุ่มชื่น บางชนิดมีการเพิ่มประกายมุกเข้ามาด้วย แต่ลิปสติกแบบนี้จะซึมเลอะออกมานอกปากวาดกันไว้อาจพอช่วยได้
Gloss Lipstick ให้ความแวววาวดูบางเบาและอ่อนวัย แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับสาววัยผู้ใหญ่หรือสาวที่ริมฝีปากอุดมไปด้วยริ้วรอยย่น เพราะจะยิ่งเน้นให้รอยเหล่านั้นชัดเจนขึ้น ที่สำคัญ อย่าชโลมเนื้อลิปสติกมากจนริมฝีปากเยิ้ม ใช้วิธีแต้มเนื้อลิปสติกลงบริเวณกลางริมฝีปากบนและล่างแล้วจึงค่อยเม้มปากเบาๆให้เนื้อลิปกระจายไปทั่วแทนจะดีกว่า

Tips รองพื้น

Tips รองพื้นรองพื้นมีส่วนผสมของน้ำมันมักจะแยกตัวเป็นชั้น
ดังนั้นก่อนใช้ควรเขย่าขวดให้เนื้รองพื้นเข้ากันดีเสียก่อน
การเกลี่ยรองพื้นบางๆบนเปลือกตาและริมฝีปาก
จะช่วยให้ทาอายแชโดว์และลิปติกได้ง่ายขึ้น

23.8.51

ดูแลแปรง ดูแลแก้ม

ดูแลแปรง ดูแลแก้ม

โดยส่วนใหญ่การเลือกแปรงปัดแก้มนั้นควรเลือกที่ขนแปรงแน่น นุ่มทำจากขนสัตว์ เช่น ขนจากหางม้า หรือ ขนกระต่าย
แต่มีข้อควรระวังสักนิดว่า แม้ขนกระต่ายจะนุ่มและอ่อนโยนต่อผิว แต่ว่าลักษณะขนค่อนข้างฟุ จึงควบคุมทิศทางการปัดได้ยาก ฉะนั้น
ให้เลือกแปรงที่มีขนแปรงแน่น ก่อนซื้อแอบลองดึงเบาๆก็ได้
เลือกแปรงที่มีลักษณะแบน ปลายมน เหมือนนิ้วหัวแม่มือ เพราะจะสามารถสัมผัสผิวหน้าได้มากกว่าแปรงแบบกลมปัดแล้ว
ช่วยเพิ่มมิติของสีบนแก้มได้ดีกว่าด้วย มองหาหัวแหรงที่มีความกว้างประมาณนิ้วโป้งสองนิ้ววางต่อกัน เพราะจะเกลี่ยได้เนียนกว่า
หัวแปรงเล็กๆ และควรแยกแปรงที่ใช้กับเฉดสีเข้มกับเฉดสีอ่อนออกจากกันป้องกันการสับสนในยามแต่งหน้าหรือยามต้องการไฮไลท์
ผิว นอกจากนี้ควรใช้แปรงที่มีด้ามจับยาวปะมาณหนึ่งตืบขึ้นไป จะช่วยฝห้สะดวกในการแต่งหน้ามากกว่าแปรงที่มีด้ามจับสั้น
ที่สำคัญ ไม่ควรใช้บรรดาแปรงปัดแก้มจิ๋วที่แถมมากับตลับบลัชออนทั้งหลาย โยนทิ้งไปได้โดยไม่ต้องเสียดายเพราะนอกจาก
แปรงเหล่านั้นจะใช้ขนแปรงสังเคราะห์ ทำให้ระคายผิวแล้ว ขนดแปรงยังเล็กเกินไป กว่าจะเกลี่ยได้ทั่วแก้มก็ต้องเสี่ยงต่อการมีแก้มสีช้ำ
เพราะน้ำหนักสีบนแก้มไม่เท่ากัน
ทำความสะอาดแปรงปัดแก้มเป็นประจำทุกเดือน ใช้ยาสระผมเด็กหรือคลีเซอร์สำหรับล้างหน้าเป็นประจำมาทำความสะอาดก็ได้
จากนั้นล้างแปรงในน้ำอุ่นให้สีต่างๆหลุดออกมาจนขนแปรงสะอาดแล้วจึงตากให้แห้งสนิทบนผ้าขนหนูอย่าลืมจับขนแปรงให้อยู่ทิศทางที่ถูกต้อง
ด้วย จะได้ยืดอายุการใช้งานของแปรงไปได้นานๆ

Check Your Cheek


พวงแก้มเปล่งปลั่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่สะกดสายตาผู้พบเห็นให้ร่วมลงมติได้อย่างเป็นเอกฉันท์การันต์ตีว่าสาวนางนี้มีอนามัยและความสดใสดีเกินใคร
ก็เพราะยามแก้มออกสีแดงระเรื่อ แสดงว่าเส้นเลือดน้อยใหญ่ที่แตกแขนงอยู่บนพวงแก้มกำลังได้รับการสูบฉีดโลหิตมาหล่อเลี้ยงอย่างเต็มที่ กรรมวิธีโบราณที่ขานรับว่าเป็นสูตรเด็ดสร้างแก้มเปล่งปลั่งคือการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดโลหิตมากขึ้นกว่าปกติ หรือหันไปพึ่งกระบวนการทางวิทยาศาตร์ก็เข้าทีปรมาจารย์ด้านความงามอุตสาห์ตรคิดค้นกลยุทธ์ทางเคมีที่สามารถผลิตเครื่องสำอางอย่าง " บลัชออน " มาสร้างสรรค์ความงามแบบสังเคราะห์ให้สวยสุขภาพดีได้ทันใจตลอด24 ชั่วโมง
ชนิดของบลัชออน บลัชออนชนิดแป้ง สุดฮิตติดกระเป๋าเครื่องสำอางสาวกว่าครึ่งค่อนโลก เพราะสามารถระบายได้เร็วและเมื่อเกิดข้อผิดพลาดเผลอออกแรงปัดแก้มใสหนักมือจนกลายเป็นแก้มช้ำ ก็สามารถลบแก้ไขได้ไม่ยาก โดยใช้ฟองน้ำชุบรองพื้นเล้กน้อย เกลี่ยบางๆให้ทั่วบริเวณแล้วใช้แป้งฝุ่นปัดซ้ำอีกที สาวใดที่เลือกใช้บลัชออนชนิดน้ำหรือแป้งแข็งผสมรองพื้นควรเลือกใช้บลัชออนชนิดนี้ บลัชออนชนิดครีม ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ทำให้ ผิวดูมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ และยังติดทนนานกว่าบลัชออนชนิดอื่นๆโดยใช้ปลายนิ้วแต้มบลัชออนลงบริเวณโหนกแก้ม แล้วเกลี่ยให้เนียนทั่วเสมอกัน ควรลงทีละน้อย แล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณจนพอใจที่สำคัญควรลงบลัชออนชนิดครีมแล้วตามด้วยรองพื้น เพราะถ้าลงรองพื้นก่อน สีของบลัชออนกับสีของรองพื้นจะผสมกัน ทำให้สีแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ดูช้ำๆแระหนึ่งโดนฝ่ามือปะทะมาก็ไม่ปาน บลัชออนชนิดเจล ติดทนนานพอกับชนิดครีมและทำให้ผิวดูชุ้มชื่น เป็นธรรมชาติ แต่เนื้อบลัชออนชนิดนี้ จะแห้งเร็ว แต้มไปที่ผิวแล้วต้องรีบเกลี่ยทันที จึเหมาะสำหรับมืออาชีพ สาวใดรู้ตัวว่าเป็นมือใหม่ แต่งหน้าแต่ละทีต้องเก้ๆกังๆหันซ้ายหันขวาอยู่นานกว่าจะมั้นใจว่าสวยจริงไม่ควรใช้ บลัชออนชนิดน้ำ (Tint) วัยรุ่นหรือสาวหน้าใสผิวดีชนิดฟ้าประทานไม่ควรพลาด เพราะสามารถใช้เดี่ยวๆแต้มแก้มให้แดงระเรื่อได้ทันทีหลังจากทามอยเจอไรเซอร์โดยไม่ต้องพึ่งรองพื้นหรือแป้งชนิดใดๆมารองรับ

21.8.51

ชนิดของรองพื้น


รองพื้นไม่ใช่การสร้างสีสันเพิ่มเติมให้แก่ใบหน้า สีรองพื้นจึงต้องกลมกลืนกับสีผิวให้มากที่สุดชนิดของรองพื้นรองพื้นชนิดน้ำ ( Liquid Foundation ) ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ บางเบา เหมาะกับทุกสภาพผิวบางยี่ห้อมีส่วนผสมของเม็ดสีที่ช่วยให้กระจายแสงทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม
รองพื้นชนิดครีม (Crem Foundation) มีความเข้มข้นขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งด้วยส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ที่มากขึ้น เนื้อหนา สามารถปกปิดริ้วรอยได้มากกว่า เหมาะสำหรับผู้มีผิวแห้ง
รองพื้นชนิดแท่ง( Stick Foundation ) สะดวกและใช้ง่าย แต้มเป็นจุดๆแล้วใช้ฟองน้ำเปียกเกลี่ยให้เรียบ
รองพื้นแบบ oli Free เหมาะสาวผิวมัน เพราะไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมแต่มักผสมซิลิโคนเพื่อช่วยให้เกาะผิว แต่ไม่ช่วยให้ติดทนเหมือนรองพื้นชนิดที่มีน้ำมันดังนั้นจึงต้องระวังสีรองพื้นเลือนหาย โดยเฉพาะเวลาเหงื่อออก
ครีมบำรุงผิวเสมือนรองพื้น ( Tinted Moisturizer ) ลูกครึ่งระหว่างมอยส์เจอไรเซอร์ และรองพื้นมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวและเป็นรองพื้นได้ในเวลาเดียวกัน แต่เนื้อบางเบามากจึงไม่เหมาะสาวๆผิวใสที่รักการแต่งหน้าแบบธรรมชาติ
แป้งแข็งผสมรองพื้น เหมาะสำหรับสาวที่ตอ้งการรีทัชใบหน้าให้เนียนเรียบในชั่วโมงเร่งด่วนชุบฟองน้ำให้หมาดก่อนทาจะช่วยให้แป้งปกปิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดีแต่ถ้าต้องการความเป็นธรรมชาติก็ใช้ฟองน้ำแห้งทาแป้งไปตามปกติ

มะละกอ (Papaya)

มะละกอ (Papaya) ช่วยรักษาอาการจุกเสียดแน่นท้อง ขจัดพยาธิในลำไส้ แก้ไอ บำรุงผิวพรรณ ช่วยล้างพิษและแก้กระหาย มะละกออุดิมไปด้วย เบตาแคโรทีน วิตามินบี1 บี2และบี3 แคลเซียมและสังกะสี มีพาพาอิน (Papain) ซึ่งเป็นเอนไซม์สำหรับย่อยโปรตีนและไขมันที่มีประสิทธิ์ภาพ ทำให้มะละกอเป็นผลไม้ที่ช่วยในการย่อยอาหาร และช่วยระบายสารพิษและของเสียที่เกิดจากการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนที่ได้จากไข่ เนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์จากนมที่อัดแน่นออกจากลำไส้ที่อุดตันทำให้ลำไส้สะอาด นอกจากนี้มะละกอ ยังช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำย่อยในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กตอนต้น (Duodenum) และในขณะที่ท้องว่าง เอนไซม์นี้จะไหลไปละลายมูก และระบายของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ (Intestines) ก่อนที่ของเสียจะถูกระบายออกนอกร่างกายในที่สุด เมื่อจะนำไปใช้ให้ปอกเปลือกออกให้หมด คว้านเอาเมล็ดและไส้ออก สกัดแต่ส่วนที่เป็นเนื้อเท่านั้น ช่วยแก้กระหายและเพิ่มน้ำในร่างกาย

19.8.51

พริกหยวก (Paprika)

พริกหยวก (Paprika) พริกหยวกอุดมด้วยวิตามินซี วิตามินอี เบตาอคโรทีน และสังกะสี ดีต่อระบบย่อยอาหาร
ดีต่อพิวพรรณ ทำให้ผิวใสสะอาด ดีต่อผู้ที่มีอาการท้องผูก แม้ว่าพริกจะดีต่อการล้างพิษ แต่ใน
กรณีที่กระเพาะอาหารของคุณไวต่อสิ่งกระตุ้น และมีอาการระคายเคืองได้ง่าย ก็ควรหลีกเลี่ยง

17.8.51

สูตร ผิวสวยหน้าใส แลดูอ่อนกว่าวัย

ผิวสวยหน้าใส แลดูอ่อนกว่าวัย
ส่วนผสมมะนาวฝรั่ง 2 ผล
ขึ้นฉ่าย 1 ถ้วย
ผักชีฝรั่ง 1 ถ้วย
มะเขือเทศ 2 ถ้วย
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย

รายละเอียด
มะนาวฝรั่งคั้นเอาแต่น้ำ ขึ้นฉ่ายและผักชีฝรั่งหั่นหยาบๆมะเขือเทศหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า นำส่วนผสมทั้งหมดไปสกัดรวมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผลไม้ เติมน้ำมะนาวฝรั่งที่เตรียมไว้ลงในน้ำผักผลไม้ที่สกัดได้ คนให้เข้ากันดีก่อนเสิร์ฟพร้อมกับน้ำแข็งป่น

บล็อกโคลี (Beoccoli)


อุดมไปด้วยสารไฟโตเคมิคอล ซิลโฟราเฟน กลูโคซิโนเลต (Phytochemical Sulforaphane Glucosinolate)ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่ในการต่อต้านการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง ช่วยเพิ่มระดับกลูตาไทโอน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่ช่วยตับขับสารพิษ มีซัลโฟราเฟนซึ่งเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ที่ได้จากพืช มีเส้นใยสูง มีเบตาแคโรทีน วิตามินซี และกรดโฟลิก บร็อกโคลียังช่วยกระตุ้นเอนไซม์ที่ใช้สำหรับล้างพิษ และช่วยทำลายเซลล์มะเร็ง จากการศึกษาพบว่าเมล็ดบร็อกโคลีที่กำลังแตกหน่อมีสารประกอบต้านมะเร็งมากกว่าเมล็ดพืชอื่นๆ ถึง50-100 เท่าเมื่อจะนำไปใช้ให้ล้างน้ำให้สะอาด หั่นพอหยาบทั้งส่วนลำต้น ใบ และดอก นำไปสกัดได้เลยทันที

14.8.51

สูตร ทำความสะอาดเลือด


สูตร ทำความสะอาดเลือดเสริมประสิทธิภาพในการลำเลียงออกซิเจนของเม็ดเลือดส่วนผสม
สตรอว์เบอร์รี 2 ถ้วย
กล้วยหอม 1 ถ้วย
กีวี 1 ถ้วย
สาหร่ายสไปรูลิน่า พอประมาณ

รายละเอียดเริ่มต้นด้วยการหั่นสตรอว์เบอร์รีพอหยาบ ปอกเปลือกกีวี หั่นตามขวาง นำกีวีและสตรอว์เบอร์รีมาสกัดเอาแต่น้ำ กล้วยฝานเป็นแว่นบางๆ นำไปปั่นรวมกับน้ำกีวีและน้ำสตรอว์เบอร์รีที่สกัดไว้เติมสาหร่ายสไปรลูนาและน้ำแข็งป่นลงไปเล็กน้อย ปั่นส่วนผสมทั้งหมดจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกันดื่มได้ทันที

มะเขือเทศ (Tomato)


การแพทย์จีนแผนโบราณใช้มะเขือเทศในการบำรุงระบบย่อยอาหาร ช่วยทำให้เลือดเป็นด่างอุดมไปด้วยไฟโตเคมิคอล ไลโคปีน (Phytochemical Lycopene) ซึ้งเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระมีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี กรดโฟลิก แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ไบโอดิน การกินมะเขือเทศพร้อมน้ำมัน เช่น น้ำมันมะกอก หรือ น้ำมันเมล็ดลินินจะทำให้ร่างกาน ดูดซึมไลโคปีนได้มากถึงร้อยละ 70 เมื่อต้องการนำมะเขือเทศมาสกัดให้ล้างน้ำออกให้สะอาด ฝานเป้นแว่นบางๆ นำไปสกัดได้เลยทันที โดยไม่ต้องคว้านเอาเมล็ดหรือใส้ออก

13.8.51

ส้ม (Orange)



อุดมไปด้วยเบตาแคโรทีน วิตามินซี ไบโดฟลาโวนอยด์ (พบในเนื้อสีขาวของแกน ช่วนใน
การดูดซึมวิตามินซี) สังกะสี โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส นอกจานี้ยังมีสรรพคุณช่วยแก้ไอ แก้
ปวด ดีต่อปอดและไต รักษาอาการคลื่นไสส้วิงเวียน รักษาอาการเมาค้าง ช่วยล้างพิษ ช่วยในการ
ขับถ่าย รักษาอาการท้องร่วง กระตุ้นร่างกายให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า
ส้มยังมีคุณสมบัติในการป้องกันเชื่อจุลินทรีย์ (Antiseptic) และด้านเชื้อรา ซึ่งเป็นคุณสมบัติ
ที่จำเป็นสำหรับการล้างพิษ หากต้องการดื่มน้ำส้มในช่วงล้างพิษไม่ควรดื่มน้ำตาลหรือสารให้ความ
หวานใดๆ ในน้ำส้มหรือน้ำผลไม้จำพวกและมะนาวอย่างเด็ดขาด เพราะสารแต่งรสดังกล่าว
จะทำให้เกิดกระบวนการหมักขึ้นภายในกระเพาะอาหาร ซึ้งจะทำให้เลือดและเนื้อเยื่อมีสภาพเป็น
กรด และควรดื่มน้ำผลไม้จำพวกส้ม มะนาว และเกรปฟรุตในขณะท้องว่าง หรือแยกจากอาหาร
อื่นๆ เมื่อจะนำไปใช้ให้ปอกเปลือกออก เหลือเอาไว้แต่เนื้อสีขาวที่ห่อหุ้มเนื้อในเอาไว้ นำไปสกัด
ได้เลยทันที โดยไม่ต้องเอาเมล็ดหรือแกนออก

สูตรล้างพิษในตับเสริมสร้างตับให้แข็งแรง

สูตรล้างพิษในตับเสริมสร้างตับให้แข็งแรง
ส่วนผสม
กะหล่ำปลี 1 ถ้วย
วีตกราส 2 ถ้วย
สาหร่ายสไปรูลิน่า พอประมาณ

รายละเอียด
เริ่มต้นด้วยการล้างทำความสะอาดกะหล่ำปลีและวีตกราส หั่นกะหล่ำปลีและวีตกราสให้มีขนาดเล็ก
พอประมาณ นำไปสกัดเอาแต่น้ำด้วยเครื่องสกัดน้ำ ผักผลไม้ เทใส่แก้ว ตบท้ายด้วยการเติมสาหร่าย
สไปรูลินาลงไป คนให้เข้ากัน ดื่มได้ทันที

แตงโม (Watermelon)

มีสรรพคุณในการช่วยชะล้างของเสียที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งไตและกระเพาะปัสสาวะ
แก้กระหาย ช่วยทำความสะอาดทางเดินปัสสาวะและไต ช่วยขับปัสสาวะ ดีต่อผู้ที่ป่วยเป็นโรค
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำให้พิวพรรณสะอาดเปล่งปลั่ง ลดความดันโลหิต ช่วยแก้ลมหายใจที่มีกลิ่น
เหม้น ช่วยขับพิษในกระเพาะอาหารและลำไส้ เปลือกแตงโมเป็นแหล่งของเบตาแคโรทีนที่สำคัญ
ซึ่งสามารถนำมาสกัดเอาน้ำได้เช่นกัน
ในระหว่างล้างพิษ คุณอาจหั่นแดงโมออกเป็นชิ้นพอคำแล้วค่อยๆ กินอย่างช้าๆ ไปเรื่อยๆ
สามารถกินได้ตลอดทั้งวันแทนขนมขบเคึ้ยว หรืออาจนำเนื้อและเปลือกสีขาวมาปั่นด้วยเครื่องปั่น
เพื่อดื่มก็ได้ เปลือกหนาสีขาวด้านนอกของแตงโมมีสรรพคุณในการช่วยระบายของเสียที่สะสม
อยู่ในไต และยังช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไตด้วยเช่อนกัน เมื่อจะนำไปใช้ให้หั่นเป็นชิ้นขนาดกลาง
โดยไม่ต้องคว้านเอาเมล็ดออก นำไปสกัดได้เลยทันที

แตงกวา (Cucumber)

แตงกวาอุดมด้วยโพแทสเซียม กรดโฟลิก คลอรีน แคลเซียม และกำมะถัน ช่วยขับปัสสาวะ
ลดอาการบวมน้ำ เมื่อจะนำไปใช้ให้ล้างน้ำให้สะอาด ฝานเป็นแว่นบางๆ นำไปสกัดได้เลยทันที
โดยไม้ต้องปอกเปลือกออก อย่างไรก็ตามหากสังเกตเห็นว่าแตงกวาเคลือบด้วยแวกซ์เพื่อยืดอายุ
การเก็บรักษา ให้ปอกเปลือกก่อนสกัดหรือเลือกซื้อแบบที่ปลูกโดยวิธีะรรมชาติจะดีที่สุด

เซเลอรี (Celery)

เซเลอรีหรือขึ้นฉ่ายอุดมด้วยคลอรีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ที่มีสรรพคุณ
ในการช่วยระงับประสาท ช่วยปัสสาวะ รักษาอาการบวมน้ำ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และช่วยลด
แาการอยากของหวาน เซเลอรีเป็นแหล่งของแมกนีเซียมซึ่งเป้นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อกระบวน
การสร้างเอนไวม์ที่มีความเป้นด่างในการขับสารพิษของร่างกาย เวเลอรียังอุดมไปด้วยโซเดียม
ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำความสะอาด และช่วยปรับสภาพในร่างกายให้มีความเป็นด่าง
และช่วยให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายเย็นตัวลง
น้ำเซเลอรีคั้นสดยังช่วยรักษาความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น อาการนอกไม่หลับ
อาการตึงเครียดทางประสาท โดยจะช่วยผ่อนคลายประสาท ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น ช่วยคลาย
เครียด ช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย นอกจากนั้นการดื่มน้ำเซเลอรีคั้นสด 1 แก้วในตอน
เช้ายังช่วยรักษาอาการเมาค้าง (Hangoven) ได้อีกด้วย เมื่อจะนำไปใช้ให้ล้างน้ำให้สะอาด หั่น
พอหยาบ นำไปสกัดได้เลยทันที

แครอต (Carrot)

สามารถกินได้ทั้งในขณะที่ยังสดอยู่ หรือคั้นดื่มเฉพาะน้ำก็ได้ แครอตเป็นแหล่งของเบต้า
แคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธฺภาพสูง ช่วยขจัดไขมันส่วนเกินออกจากตับ
ดีต่อการย่อยอาหาร กำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคในลำไส้ใหญ่ ทำลายอนุมูลอสระ รักษา
การติดเชื้อราและพยาธิ ดีต่อพิวพรรณ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ขับปัสสาวะ ขับพิษ ดีต่อสายตา
ปอด และม้าม แก้ไอ ต้านมะเร็ง ดีต่อระบบโลหิต ทำความสะอาดผิว ทำให้ผิวสวย มีแคลเซียม
และแมกนีเซียมที่ช่วยให้กระบวนการชะล้างพิษของร่างกายดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนั้น แครอตยังมีสรรพคุณในการทำความสะอาดตับจากน้ำดีและสารพิษที่สะสม
ตัวจนกลายเป็นของเหลวเหนียว ซึ่งเป้นผลมาจากการกินอาหารปนเปื้อนด้วยสารเคมี น้ำแครอต
อุดมไปด้วยซัลเฟอร์ (Sulphur) และคลอรีน (Chiorine) ที่จำเป็นต่อการทำความสะอาดเนื้อเยื่อ
แครอตยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียลิสที่เรียที่เป้นสาเหตุของอาหารเป็นพิาอีกด้วย เพื่อให้ได้
คุณค่าทางโภชราการอย่างเต็มเปี่ยม ควรเลือกแครอตที่มีขนาดใหญ่ แก่จัด และมีส้มเข้ม
เมื่อจะนำไปใช้ให้ล้างน้ำให้สะอาด ขูดเป็นเส้นเล้กๆ นำไปสกัดได้เลยทันที โดยไม่ต้องปอกเปลือก
ออก

แครนเบอร์รี ( Cranberry )

ช่วยบรรเทาอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ดีต่อระบบขับปัสสาวะ
อุดมไปด้วยวิตามินซี กรดไฟโตเคมิคอลเอลลาจิก( Phytochemical Ellagic Acid)
ฟลาวโวนอยด์ ( Flavonoid ) และเควอเซติน ( Quercetin ) นอกจากนั้น แครนเบอร์รี
ยังอุดมไปด้วยน้ำตาลแมนโนส( Mannosa ) ซึ่งมีคุณสมบัติในการขับแบคทีเรีย
ออกจากไตและกระเพาะปัสสาวะ ผลจากการวิจัยพบว่าแครนเบอร์รีสามารถ
ทำลายเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะได้มากถึง 10 เท่า ของยาปฏิชีวนะที่ใช้กัน
ในปัจจุบัน เมื่อนำไปใช้ ให้ล้างน้ำให้สะอาด นำไปสกัดได้ทันที

แคนตาลูป (Cantaloap)

มีสรรพคุณในการชะล้างสารพิษได้อ่อนโยนกว่าผลไม้จำพวกส้มหรือมะนาว อุดมไปด้วย
กรดโฟลิก เบตาแคโรทีน วิตามินบี1 บี2 และ บี6 โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และกำมะถัน
เมื่อต้องการล้างพิษด้วนแคนตาลูปไม่ควรนำไปผสมผลไม้ชนิดอื่น เพราะน้ำแคนตาลูปจะ
ย่อยและเคลื่อนตัวผ่ารระบบย่อยอาหารได้เร็วกว่าน้ำผลไม้อื่นๆ เมื่อต้องนำไปใช้ให้ล้างด้วย
น้ำเปล่าให้สะอาด ปอกเปลือกหรือไม้ก็ได้ หั่นหยาบ นำไปสกัดได้เลยทันที โดยไม่ต้องเอาไส้
และเมล็ดออก

เกรปฟรุต(Grapefruit)

เกรปฟรุตเป็นผลไม้จำพวกส้มและมะนาว มีความเป็นด่งและมีคุณสมบัติเป็นสารทำความ
สะอาดที่ดี ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับการล้างพิษ เมื่อกินแยกจากผลไม้อื่นๆ เกรปฟรุตอุดม
ไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทศเซียม วิตามินซี กรดซีตริก และไบโอฟลาโวนอยด์(Bioflavonodids)
ดีต่อตับ ดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยชะล้างสารพิษ ทำให้ร่างกาย เกรปฟรุตช่วย
ละลายเมือกและของเสียระบบถายในร่างกายทั้งหมด ช่วยปรับค่าพีเอชของเลือดและของเหลส
ในร่างกายให้มีความเป็นด่าง วึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การชะล้างที่มีประสิทธภาพ

เกรปฟรึตสดอุดมไปด้วยกรดซาลิไซลิก(Salicylic Acid) ที่ทำหน้าที่ละลายแคลเซียมที่ตกผลึก
และสะสมตัวอยู่ตามข้อต่าง ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวทำให้มันช่วยบรรเทาโรคข้อต่ออักเสบ เมื่อ
คุณกินเกรปฟรุตเป็นประจำร่วมกับการเปลี่ยนรูปแบบการกินอาหารหลังจากการล้างพิษ อาการข้อต่อ
อักเสบของคุณจะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายขาดในที่สุด เมื่อจะนำเกรปฟรุตไปใช้ให้ปอกเปลือกออก
เหลือไว้แต่เนื้อสีขาวที่ห่อหุ้มเนื้อเอาไว้ หรือไม้ต้องปอกเปลือกเลยก็ได้ ล้างให้สะอาด หั่นพอหยาบ
ทั้งแกนและเมล็ด นำไปสกัด ได้เลยทันที

กะหล่ำปลี (Cabbage)

ช่วยทำความสะอาดลำไส้ บรรเทาอาการอักเสบอันเนื่องจากแผลในลำไส้ แก้ท้องผูก แก้
เจ็บคอ บำรุงไต ดีต่อพิวพรรณ ทำให้ผิวสะอาดเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล แก้จุกเสียดแน่นท้อง ขับ
ปัสสาวะบรรเทาอาการแน่นหน้าอก จากการวิจัยทางการแพทย์พบว่าการกินกะหล่ำปลีสามารถ
ลดอัดตราการเกิดมะเร็งได้ ด้วยการช่วยเหลือของสารอินโดลฟลาโวนอยด์ และ สารคาร์บินอลที่อยู่
ในกะหล่ำปลี มีสารไฟโดตเคมิคอล ซัลโฟราเฟน กลูโคซิเลต (Phytochemical Sulforaphane
Glucosinolate) ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่ในการต่อต้านการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง ช่วยชะล้างสารพิษ
และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้ยังมีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และกรดโฟลิก
กะหล่ำปลียังเพิ่มการสร้างกลูตาไทโอนซึ่งจำเป็นต่อตับในการล้างพิษจากควันไอเสีย และ
ยา ในระหว่างล้าพิษคุณสามารถกินได้ทั้งกะหล่ำปลีขาวและเขียวและในขณะที่ยังสดอยู่ หรือ
อาจนำมาคั้นดื่มเฉพาะน้ำก็ได้ น้ำกะหล่ำปลีขาวจะมีรสชาติหวาน และง่ายต่อการดื่มมากกว่า
กะหล่ำปลีเขียว ซึ่งจะมีกลิ่นและรสที่ไม่น่าดื่มนัก วิธีแก้คือให้นำไปผสมกับผัก เช่น แครอต แอป-
เปิ้ลเขียว ขิง หรือมะเขือเทสจะทำให้น้ำกะหล่ำปลีเขียวดื่มง่ายมากยิ่งขึ้น

กีวี(Kiwi Fruit)


ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายทำให้ไม่เป็นหวัดง่าย ดดยเ)พาะในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
อุดมไปด้วยวิตามินซี แมกนีเซียม โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม และ เบตาแคโรทีน
เมื่อจะนำไปใช้ให้ปอกเปลือกส่วนที่เป็นขนออกให้หมด ฝานเป็นแว่นบางๆ นำไปสกัดได้ทันที
หรืออาจผ่าครึ่งแล้วใช้ช้อนคว้านเอาแต่เนื้อออกไปสกัดก็ได้

10.8.51

โปรแกรมสำหรับการล้างพิษที่ขอแนะนำ 2 วัน

เช้า 6.00น. - ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว
- จ๊อกกิ้งเบาๆ รอบสวนสาธารณะในหมู่บ้านรับอากาศบริสุทธิ์
- แปรงผิวกระตุ้นน้ำเหลือง อาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น
- ดื่มน้ำส้มคั้นสด 1 แก้ว 230 มล
สาย 9.00น - ฟังเพลงเบาๆ เพื่อความผ่อนคลาย ดื่มชาสเปียร์มินต์
- ดูโทรทัศน์
เที่ยง 12.00น - ดื่มน้ำส้มคั้นสด 1 แก้ว 230มล
- นวดหน้านวดตัวกระตุ้นการไหลเวียนของ ของเหลว
- ทำกิจกรรมเบาๆ
- นอนกลางวัน
บ่าย 15.00น - ดื่มน้ำแร่
- กิจกรรมเบาๆ
เย็น 180.00น - ดื่มน้ำส้มคั้นสด 1 แก้ว 230 มล.
- ทำโยคะ
- นอนแช่น้ำอุ่นผสมเกลือเอปซั่ม อาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น
ค่ำ 20.00น - ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว
- นั่งสมาธิ
- ดูโทรทัศเพื่อผ่อนคลาย
- เข้านอน

วันที่ 2
เช้า 6.00น - ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว

- ทำโยคะรับอรุณ
- แปรงผิวกระตุ้นน้ำเหลือง อาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น
- ดื่มน้ำเกรปฟรุต 1 แก้ว 230 มล.
สาย 9.00น - ทำงานอดิเรกเบาๆ จิบชาสมุนไพรร้อนๆ ทำกิจกรรมเบาๆ
เที่ยง 12.00น - ดื่มน้ำเกรปฟรุต 1 แก้ว 230 มล.
- นวดหน้านวดตัวกระตุ้นการไหลเวียนของ ของเหลว
- ฟังเพลงเพื่อสร้างความผ่อนคลาย
- นอนกลางวัน
บ่าย 15.00น - ดื่มน้ำแร่ ทำากิจกรรมเบาๆ
เย็น 18.00น - ดื่มน้ำเกรปฟรุต 1 แก้ว 230 มล
- นอนแช่น้ำอุ่นผสมเกลือเอปซั่ม อาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น
ค่ำ 20.00น - ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว
- นั่งสมาธิ
- ดูโทรทัศเพื่อผ่อนคลาย
- เข้านอน

โปรแกรมสำหรับล้างพิษที่ขอแนะนำ แบบ 1 วัน

เช้า 6.00 น - ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว 1แก้วโต
- เล่นโยคะรับอรุณ
- แปรงผิวกระตุ้นระบบน้ำเหลื่อง
- อาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น
- ดื่มน้ำส้มคั้นสด 1 แก้ว 230มล.
สาย 9.00 น - อ่านหนังสือนิยายเล่มโปรด
- ดื่มชาคาโมไมล์
- ฟังเพลงผ่อนคลายอารมณ์
เที่ยง12.00น. - ดื่มน้ำส้มสด 1 แก้ว 230มล.
-นวดหน้าและนวดตัวกระตุ้นการไหลเวียนของของเหลว
- เดินเล่นรอบบ้าน
- นอนกลางวัน
บ่าย15.00 น - ดื่มน้ำแร่
- ทำความสะอาดบ้าน
- ดูโทรทัศน์
เย็น18.00น. - ดื่มน้ำส้มคั้น 1 แก้ว 230 มล.
- เล่นโยคะ
- อาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น
- นอนแช่น้ำอุ่นผสมเกลือเอปซั่ม
ค่ำ20.00น. - ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว
- นั่งสมาธิ
- อ่านหนังสือธรรมะ
- เข้านอน

ควรทำอย่างไรก่อนการล้างพิบ

การล้างพิษด้ายน้ำผัก-ผลไม้ แบบ 1 วัน - - สัปดาห์ละครั้ง
การล้างพิษด้ายน้ำผัก-ผลไม้ แบบ 2 วัน - - เดือนละ 2 ครั้ง
เป็นอีกวิธีที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นล้างพิษด้วยตัวเอง รวมไปถึงผู้ต้องการได้รับประโยชน์
จากการอดอาหารและต้องการชะล้างทำความสะอาดระบบการย่อยอาหารอย่างหมดจด
ในเวลาอันสั้น โดยมันจะช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหารของคุณเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเต็ม
เมื่อตัดสินใจที่จะทำการล้างพิษด้วยวิธีนี้ ให้คุณเลือกวันว่าง 1 วัน ซึ่งวันนั้นควรเป็นวันที่คุณไม่
ต้องทำอะไรเลย เนื่จากคุณไม่สามารถกินอาหารใดๆได้ นอกจากน้ำสะอาดและน้ำผัก-ผลไม้
เท่านั้น ร่างกายของคุณจึงมีแรงมากพอที่จะทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องใช้ แรงมากๆดังนั้นในช่วงนี้
จึงแนะนำให้คุณนอนพักผ่อน อ่านหนังเสือ ฟังเพลง หรือทำการนวดเฟ้นตามเนื้อตัวเพื่อกระตุ้น
การไหลเวียนของของเสียภายในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้ของเสียและสารพิษขับออกมามากยิ่งขึ้น
สิ่งที่ควรดื่ม
การล้างสารพิษแบบ 1 วัน คุณจำเป็นต้องอดอาหารและดื่มแต่น้ำผัก-ผลไม้ควบคู่ไปกับน้ำสะอาด
น้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว หรือชาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการชะล้างสารพิษและเยียวยาระบบย่อย
อาหาร เช่น ชาคาโมไมล์ (Chamomile ) หรือชาสเปียร์มินต์(Spearmint) ตลอด24ชั่วโมงให้คุณเลือก
ผัก-ผลไม้ที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดระบบย่อยอาหารที่ดีเยี่ยมจำพวกส้มหรือเกรปฟรุต
เนื่องจากมีกรดซิตริก(Citric Acid ) และกรดมาลิก( Malic Aclid ) และเส้นใยเพ็กติน(Pectin)
ที่มีประโยชน์ในปริมาณสูง ให้เลือกดื่มอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เพื่อป้องกันมิให้ร่างกายต้องสูญ
เสียพลังงานในการย่อยมากเกินไป ในระหว่างวันควรดื่มน้ำสะอาดประมาณ 2 ลิตร โดยให้ดื่ม
คั่นระหว่างมื้อ น้ำที่นำมาดื่มนั้นอาจเป็นน้ำสะอาด น้ำแร่ น้ำร้อนผสมน้ำมะนาว หรือน้ำชาสมุนไพร
ควรดื่มมากเท่าไร
ดื่มน้ำผลไม้ 3 แก้วต่อวัน ประมาณ230มล./แก้ว โดยแต่ละมื้อให้ดื่มเพียง 1 แก้วเท่านั้น และเนื่อง
จากน้ำผลไม้มีน้ำตาลฟลักโทส(Fructose)ในปริมาณสูง ซึงอาจทำให้คุณรู้สึกวิงเวียนศีรษะหาก
ดื่มโดยปราศจากอาหาร วิธีแก้ก็คือให้คุณเติมน้ำแร่ลงไปเจือจางพอประมาณแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ
ความชอบของแต่ละบุคคล ในระหว่างวันให้ดื่มน้ำสะอาดให้มากเพื่อรักษาร่างกายให้ชุ่มชื้น
และยังยังเป็นการช่วยชะล้างสารพิษและของเสียออกมาได้ดี เมื่ร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่มากพอ
คุณจะไม่รู้สึกกระหาย ปัสสาวะจะเป็นสีใส ไม่เป็นสีเหลืองหรืมีสีเข้ม เมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้าให้ดื่มน้ำอุ่น
ผสมน้ำมะนาวทันที เพื่อปลุกระบบย่อยอาหารและลำใส้ให้ทำงาน

ทำอะไรดีก่อนการล้างพิษ

ก่อนการล้างพิษ ด้วยน้ำผัก-ผลไม้หรือการล้างพิษด้วยวิธีใดๆ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเพื่อให้ได้รับประโยชน์
จากการล้างพิษอย่างเต็มที่ ควรมีการเตรียมร่างกายและจิตใจของตนเองให้พร้อมเสียก่อน
การผลีผลามเข้ารับการล้างพิษอย่างทันทีทันใด ไม่เพียงแต่จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกายจิตใจอย่างเต็มที่
เท่านั้น ยังอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพอยางคาดไม่ถึงได้ ก่อนการล้างพิษ 2-3 วัน ให้งดกินอาหารหลังตะวันตกดิน
อาหารที่กินส่วนใหญ่ควรเน้นธัญพืช ผักสดหรือผลไม้แช่เย็น งดสูบบุหรี่ ในแต่ละวันให้งดอาหาร 1 มื้อ ให้แทนมื้อนั้นๆ
ด้วยผักหรือผลไม้แทน
ควรหาซื้อผักและผลไม้สดมากักตุนไว้ตามจำนวนที่คุณวางแผนว่าจะล้างพิษ เพราะความไม่สดวกใดๆ ที่เกิดขึ้น
อาจทำให้คุณหมดกำลังใจและล้มเลิกความตั้งใจที่จะล้างพิษต่อไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการกักตุนผักและ
ผลไม้สดนานเกินไป ผักและผลไม้ที่นำมาสกัดควรสดและใหม่ ไม่เก็บไว้นานจนเหี่ยวแห้ง เพราะวิตามินและแร่ธาตุ
บางอย่างอาจสลายไปได้หากผลไม้หรือผักนั้นถูกเก็บไว้นาน ออกกำลังกายเบาๆอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ
นั่งสมาธิเพื่อสร้างความผ่อนคลาย ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป เพราะการคร่ำเคร่งอยู่กับการล้างพิษที่มากจนเกินไปจะทำ
สูญเสียพล้งงานไปโดยเปล่าประโยชน์ จนทำให้คุณทนไม่ไหว จนต้องล้มเลิกกลางคัน
จัดสถานที่ที่คุณจะใช้เป็นที่สำหรับล้างพิษให้เหมาะแก่การพักผ่อนควรใช้ห้องที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เช่น ห้องนอน
ห้องอ่านหนังสือ หรือห้องนั่งเล่นที่ปราศจากการรบกวนจากบุคลลถายนอก เนื่องจากในช่วงแห่งการเตรียมตัว
คุณจำเป็นต้องอดอาหารหรืองดทำกิจกรรมบางอย่างที่อาจส่งผลเสียต่อกระบวนการล้างพิษ ดังนั้นคุณอาจรู้สึกหิวกระหาย
จนเกิดการหงุดหงิดกระสับกระส่ายได้ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ให้เตรียมของว่างไว้ไกล้มือที่คุณสามารถหยิบกินได้ทุกครั้ง
เช่น ผัผลไม้สดหั่นเป็นชิ้นพอคำแช่เย็น ธัญพืชหรือเมล็ดพืชอบแห้ง ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือ เพื่ผ่อนคลายความตึงเครียด

9.8.51

กินอะไรดีก่อนการล้างพิษ


กินอะไรดีก่อนการล้างพิษ
เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการล้างพิษมากที่สุด 2-3 วันก่อนที่จะเข้าโปรแรมล้างพิษใดๆให้คุณเตรียมร่างกาย
และจิตรใจให้พร้อมก่อนด้วยวิธีดังต่อไปนี้
เนื้อสัตว์ -กินอาหารที่ย่อยง่าย
-งดผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวทุกชนิด เช่น ชีส โยเกิร์ต
-งดเนื้อหมู เนื้องัว เนื้อไก่ เนื้อเป็ด และเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ
-กินเนื้อปลาและอาหารทะเล
-ลดปริมาณการกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยอาจลดเนื้อสัตว์ลงในบางเมื้อของวัน
-หันมาใช้อาหารที่เป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพดี เช่น เต้าหู้ ธัญพืช รวมไปถึงพืชผักต่างๆ ในการปรุงอาหารแทน
ผักและผลไม้-กินผัก-ผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารสูง
-นอกจากผักสด กินผักที่ผ่นการนึ่ง ย่าง อบ หรือผัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล
-กินผักและผลไม้ให้มากและหลากหลายชนิด
-ตบท้ายมื้ออาหารด้วยผลไม้สดทุกวัน อย่างน้อย 1 มื้อต่อวัน
-กินผักในแต่ละครั้งให้มากกว่า 2 ชนิด
เครื่องปรุง
-งดอาหารรสจัด
-กินอาหารที่ปรุงด้วยเครื่องปรุงรสให้น้อยที่สุด
-กินอาหารรสธรรมชาติให้มากที่สุด
แป้ง
-กินคาร์โบไฮเดรตที่มีเส้นใยอาหารสูง เช่น พาสต้าทำจากแป้งโฮลวีด
-กินข้าวแดง ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีด
-กินถั่วงอกและถั่วที่มีโปรตีนสูง
ของว่าง-งดกินชอ็กโกแลต และ ขนมนมเนยทุกชนิด
-งดอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมากๆ เช่น อาหารกระป๋อง อาหารหมักดอง อาหารแช่แข็ง
-หลีกเลี่ยงอาหารที่ใส่สารปรุงแต่งรส เช่น ผงชูรส น้ำตาลทรายขาว เกลือแปรรูป
น้ำและเครื่องดื่ม
-ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ให้ได้วันละ 10-12 แก้วหรือมากกว่านั้น
-ลดเครื่องดื่มชา กาแฟ และแอลกอฮอล์
-งดดื่มนมวัว ให้ดื่มนมถั่วเหลืองนมข้าวแทน
-ดื่มชาสมุนไพร เช่น ชาคาโมไมล์ หรือชาสเปียร์มินต์

8.8.51

สารอาหารมหัศจรรย์ที่อยู่ในน้ำผัก-ผลไม้คั้นสด

สารอาหารมหัศจรรย์ที่อยู่ในน้ำผัก-ผลไม้คั้นสด
สารไฟโตเคมิคอล( phytochemical ) เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพที่พบในผักและผลไม้ทุกชนิด
ในปัจจุบันยังคงมีการศึกษาถึงบทบาทสำคัญของสารอาหารเหล่านี้ที่มีต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ และยังมีการพบสารไฟโต
เคมิคอลใหม่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สารไฟโตเคมิคอลที่สำคัญได้แก่
เบต้าแคโรทีน(Beta Carotene) เป็นเม็ดสีที่พบมากในแครอต ผักใบเขียวเข้ม มีคุณสมบัติ
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมที่พัฒนามาจากวิตามินเอ
ซัลโฟราเฟน กลูโคซิโนเลต(Sulforaphane Glucosinolate)มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม
ช่วยปกป้องเซลล์และเนื้อเยื่อจากความเสื่อมโทรมและร่วงโรย ป้องกันการเกิดมะเร็งมักพบในบร็อกโคลี
ไลโคปีน(Lycopene) เป็นเม็ดสีที่พบในมะเขือเทศ มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม
จากการศึกษาพบว่ามีฤทธิ์ในการต้านมะเร็งต่อมลูกมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เควอเซติน(Quercetin) เป็นสารฟลาโวนอยด์ที่มีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระที่พบมาก ใน
แอบเปิลและแครนเบอร์รี่
ไอโซฟลาโนนส์(Lsoflavones) มีลักษณะคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน(Estrogen) พบมาก
ในอาหารที่ทำจากถั่วเหลื่อง
อินโดล ธรี คาร์บินอล (Indoie3 Carbinol) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากใน
กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก วอเตอร์เครส
เอลลาจิก(Enzyme Acid) เป็นสารต่อต้านริ้วรอยที่พบมากในบลูเบอร์รี แครนเบอร์รี องุ่น

ล้างพิษและฟื้นฟูสุขภาพ

การล้างพิษและฟื้นฟูสุขภาพ
ด้วยวิธีการดำรงชีวิตประจำวันในปัจจุบที่ต้องเผชิญกับสิ่งกระตุ้นให้เกิดความเสื่อมโทรมดังกล่าว
ทำให้กระบวนการล้างพิษของร่างกายด้อยลง ร่างกายมีแนวโน้มที่จะรับสารพิษเข้ามาสะสมในตัวมากขึ้น
หากของเสียดังกล่าวยังมีสะสมขึ้นโดยปราศจากการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ไม่ช้าร่างกายเราก็คงไม่ต่างจาก
ตลิ่งต้องพังทลายลงเพราะทนกระแสน้ำที่ถาโถมเข้ามาไม่ไหว
การล้างพิษด้วยน้ำผัก-ผลไม้เป็นอีกหนึ่งในอีกหลายๆ วิธีที่จะช่วยล้างสารพิษและของเสียที่ตกค้างใน
ร่างกายออกไปให้หมด นำร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณที่สมบูรณ์แข็งแรง และสะอาดบริสุทธิ์ให้กลับคืนมา
น้ำผัก-ผลไม้ที่สดใหม่จะมีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุและสารไฟโตมิคอลที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบ
ต่างๆภายในร่างกายในปริมาณที่เข้มข้น หากเปรียบเทียบกับการกินผักหรือผลไม้สดตามปรกติ
น้ำผัก-ผลไม้เป็นเครื่องดื่มทรงพลังที่สามารถชะล้างสารพิษและของเสียจากอวัยวะภายในได้อย่างล้ำลึก
และมีประสิทธิภาพ และมันยังเป็นตัวช่วยเพิ่มพลังให้แก่ร่างกายของคุณได้อย่างดี