พวงแก้มเปล่งปลั่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่สะกดสายตาผู้พบเห็นให้ร่วมลงมติได้อย่างเป็นเอกฉันท์การันต์ตีว่าสาวนางนี้มีอนามัยและความสดใสดีเกินใคร
ก็เพราะยามแก้มออกสีแดงระเรื่อ แสดงว่าเส้นเลือดน้อยใหญ่ที่แตกแขนงอยู่บนพวงแก้มกำลังได้รับการสูบฉีดโลหิตมาหล่อเลี้ยงอย่างเต็มที่ กรรมวิธีโบราณที่ขานรับว่าเป็นสูตรเด็ดสร้างแก้มเปล่งปลั่งคือการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดโลหิตมากขึ้นกว่าปกติ หรือหันไปพึ่งกระบวนการทางวิทยาศาตร์ก็เข้าทีปรมาจารย์ด้านความงามอุตสาห์ตรคิดค้นกลยุทธ์ทางเคมีที่สามารถผลิตเครื่องสำอางอย่าง " บลัชออน " มาสร้างสรรค์ความงามแบบสังเคราะห์ให้สวยสุขภาพดีได้ทันใจตลอด24 ชั่วโมง
ชนิดของบลัชออน บลัชออนชนิดแป้ง สุดฮิตติดกระเป๋าเครื่องสำอางสาวกว่าครึ่งค่อนโลก เพราะสามารถระบายได้เร็วและเมื่อเกิดข้อผิดพลาดเผลอออกแรงปัดแก้มใสหนักมือจนกลายเป็นแก้มช้ำ ก็สามารถลบแก้ไขได้ไม่ยาก โดยใช้ฟองน้ำชุบรองพื้นเล้กน้อย เกลี่ยบางๆให้ทั่วบริเวณแล้วใช้แป้งฝุ่นปัดซ้ำอีกที สาวใดที่เลือกใช้บลัชออนชนิดน้ำหรือแป้งแข็งผสมรองพื้นควรเลือกใช้บลัชออนชนิดนี้ บลัชออนชนิดครีม ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ทำให้ ผิวดูมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ และยังติดทนนานกว่าบลัชออนชนิดอื่นๆโดยใช้ปลายนิ้วแต้มบลัชออนลงบริเวณโหนกแก้ม แล้วเกลี่ยให้เนียนทั่วเสมอกัน ควรลงทีละน้อย แล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณจนพอใจที่สำคัญควรลงบลัชออนชนิดครีมแล้วตามด้วยรองพื้น เพราะถ้าลงรองพื้นก่อน สีของบลัชออนกับสีของรองพื้นจะผสมกัน ทำให้สีแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ดูช้ำๆแระหนึ่งโดนฝ่ามือปะทะมาก็ไม่ปาน บลัชออนชนิดเจล ติดทนนานพอกับชนิดครีมและทำให้ผิวดูชุ้มชื่น เป็นธรรมชาติ แต่เนื้อบลัชออนชนิดนี้ จะแห้งเร็ว แต้มไปที่ผิวแล้วต้องรีบเกลี่ยทันที จึเหมาะสำหรับมืออาชีพ สาวใดรู้ตัวว่าเป็นมือใหม่ แต่งหน้าแต่ละทีต้องเก้ๆกังๆหันซ้ายหันขวาอยู่นานกว่าจะมั้นใจว่าสวยจริงไม่ควรใช้ บลัชออนชนิดน้ำ (Tint) วัยรุ่นหรือสาวหน้าใสผิวดีชนิดฟ้าประทานไม่ควรพลาด เพราะสามารถใช้เดี่ยวๆแต้มแก้มให้แดงระเรื่อได้ทันทีหลังจากทามอยเจอไรเซอร์โดยไม่ต้องพึ่งรองพื้นหรือแป้งชนิดใดๆมารองรับ
ก็เพราะยามแก้มออกสีแดงระเรื่อ แสดงว่าเส้นเลือดน้อยใหญ่ที่แตกแขนงอยู่บนพวงแก้มกำลังได้รับการสูบฉีดโลหิตมาหล่อเลี้ยงอย่างเต็มที่ กรรมวิธีโบราณที่ขานรับว่าเป็นสูตรเด็ดสร้างแก้มเปล่งปลั่งคือการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดโลหิตมากขึ้นกว่าปกติ หรือหันไปพึ่งกระบวนการทางวิทยาศาตร์ก็เข้าทีปรมาจารย์ด้านความงามอุตสาห์ตรคิดค้นกลยุทธ์ทางเคมีที่สามารถผลิตเครื่องสำอางอย่าง " บลัชออน " มาสร้างสรรค์ความงามแบบสังเคราะห์ให้สวยสุขภาพดีได้ทันใจตลอด24 ชั่วโมง
ชนิดของบลัชออน บลัชออนชนิดแป้ง สุดฮิตติดกระเป๋าเครื่องสำอางสาวกว่าครึ่งค่อนโลก เพราะสามารถระบายได้เร็วและเมื่อเกิดข้อผิดพลาดเผลอออกแรงปัดแก้มใสหนักมือจนกลายเป็นแก้มช้ำ ก็สามารถลบแก้ไขได้ไม่ยาก โดยใช้ฟองน้ำชุบรองพื้นเล้กน้อย เกลี่ยบางๆให้ทั่วบริเวณแล้วใช้แป้งฝุ่นปัดซ้ำอีกที สาวใดที่เลือกใช้บลัชออนชนิดน้ำหรือแป้งแข็งผสมรองพื้นควรเลือกใช้บลัชออนชนิดนี้ บลัชออนชนิดครีม ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ทำให้ ผิวดูมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ และยังติดทนนานกว่าบลัชออนชนิดอื่นๆโดยใช้ปลายนิ้วแต้มบลัชออนลงบริเวณโหนกแก้ม แล้วเกลี่ยให้เนียนทั่วเสมอกัน ควรลงทีละน้อย แล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณจนพอใจที่สำคัญควรลงบลัชออนชนิดครีมแล้วตามด้วยรองพื้น เพราะถ้าลงรองพื้นก่อน สีของบลัชออนกับสีของรองพื้นจะผสมกัน ทำให้สีแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ดูช้ำๆแระหนึ่งโดนฝ่ามือปะทะมาก็ไม่ปาน บลัชออนชนิดเจล ติดทนนานพอกับชนิดครีมและทำให้ผิวดูชุ้มชื่น เป็นธรรมชาติ แต่เนื้อบลัชออนชนิดนี้ จะแห้งเร็ว แต้มไปที่ผิวแล้วต้องรีบเกลี่ยทันที จึเหมาะสำหรับมืออาชีพ สาวใดรู้ตัวว่าเป็นมือใหม่ แต่งหน้าแต่ละทีต้องเก้ๆกังๆหันซ้ายหันขวาอยู่นานกว่าจะมั้นใจว่าสวยจริงไม่ควรใช้ บลัชออนชนิดน้ำ (Tint) วัยรุ่นหรือสาวหน้าใสผิวดีชนิดฟ้าประทานไม่ควรพลาด เพราะสามารถใช้เดี่ยวๆแต้มแก้มให้แดงระเรื่อได้ทันทีหลังจากทามอยเจอไรเซอร์โดยไม่ต้องพึ่งรองพื้นหรือแป้งชนิดใดๆมารองรับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น